1 00:00:00,000 --> 00:00:00,640 - 2 00:00:00,640 --> 00:00:00,850 ใน 3 00:00:00,850 --> 00:00:04,750 ในวิดีโอที่แล้ว, ผมอ้างไว้ว่า ผลที่เราได้ สำหรับพื้นที่ 4 00:00:04,750 --> 00:00:09,770 ของสามเหลี่ยมที่มีด้านยาว a,b และ c 5 00:00:09,770 --> 00:00:11,810 เท่ากับสูตรของเฮรอน 6 00:00:11,810 --> 00:00:14,150 และสิ่งที่ผมอยากทำในวิดีโอนี้ คือแสดงให้คุณเห็นว่านี่ 7 00:00:14,150 --> 00:00:16,780 เท่ากับสูตรของเฮรอน โดยการ 8 00:00:16,780 --> 00:00:18,990 จัดรูปพีชคณิต. 9 00:00:18,990 --> 00:00:21,590 แล้วสิ่งที่เราที่อยากทำ -- แค่โยน 10 00:00:21,590 --> 00:00:23,590 1/2 c นี่เข้าไปใต้เครื่องหมายราก. 11 00:00:23,590 --> 00:00:28,170 แล้ว 1/2 c, นี่เก็เหมือนกับสแควร์รูท 12 00:00:28,170 --> 00:00:30,480 ของ c กำลังสอง ส่วน 4. 13 00:00:30,480 --> 00:00:32,910 คุณหาสแควร์รูทของมัน แล้วจะได้ 1/2 c. 14 00:00:32,910 --> 00:00:36,270 ดังนั้นพจน์ทั้งหมดนี้ เท่ากับ -- แทนที่จะเขียน 15 00:00:36,270 --> 00:00:41,450 เครื่องหมายราก, ผมจะเขียนสแควร์รูทของอันนี้, 16 00:00:41,450 --> 00:00:48,200 ของ c กำลังสอง ส่วน 4 คูณทั้งหมดนี่. 17 00:00:48,200 --> 00:00:49,530 ผมจะคัดลอกและวางมันลงไป. 18 00:00:49,530 --> 00:00:53,040 - 19 00:00:53,040 --> 00:00:55,610 คัดลอกและวาง. 20 00:00:55,610 --> 00:00:57,160 แล้วคูณทั้งหมดนั่น. 21 00:00:57,160 --> 00:01:01,160 และแน่นอน, เราต้องกระจายมันไป. 22 00:01:01,160 --> 00:01:03,960 ได้ c กำลังสองส่วน 4 คูณทั้งหมดนั่น. 23 00:01:03,960 --> 00:01:06,390 แล้วเราต้องปิดเครื่องหมายสแควร์รูท. 24 00:01:06,390 --> 00:01:08,990 - 25 00:01:08,990 --> 00:01:11,460 ขอผมกระจาย c กำลังสอง ส่วน 4 นะ. 26 00:01:11,460 --> 00:01:13,960 นี่จะเท่ากับสแควร์รูท. 27 00:01:13,960 --> 00:01:15,940 มันจะรกหน่อย, แต่ผมว่าคุณจะ 28 00:01:15,940 --> 00:01:18,620 รู้สึกพอใจเมื่อเห็นว่านี่กลายเป็นสิ่ง 29 00:01:18,620 --> 00:01:20,470 ที่ง่ายดายเหมือนสูตรของเฮรอน 30 00:01:20,470 --> 00:01:24,660 สแควร์รูทของ c กำลังสอง ส่วน 4 คูณ a กำลังสอง เท่ากับ c 31 00:01:24,660 --> 00:01:32,560 กำลังสอง a กำลังสอง ส่วน 4, ลบ c กำลังสองส่วน 4, 32 00:01:32,560 --> 00:01:35,270 ผมแค่กระจายนี่ไป. 33 00:01:35,270 --> 00:01:37,600 แล้วผมจะเขียนมันเป็นตัวเศษกำลังสอง ส่วน 34 00:01:37,600 --> 00:01:39,060 ตัวส่วนกำลังสอง. 35 00:01:39,060 --> 00:01:44,090 ได้ คูณ c กำลังสอง บวก a กำลังสอง ลบ b 36 00:01:44,090 --> 00:01:45,950 กำลังสอง, กำลังสอง. 37 00:01:45,950 --> 00:01:49,815 ส่วน -- ถ้าผมกำลังสองตัวส่วน, มันคือ 4c กำลังสอง. 38 00:01:49,815 --> 00:01:52,790 - 39 00:01:52,790 --> 00:01:54,840 และเราเห็นได้ทันทีว่า c กำลังสอง กับ c กำลังสองนั่น 40 00:01:54,840 --> 00:01:55,600 จะตัดกัน. 41 00:01:55,600 --> 00:02:00,260 ขอผมปิดวงเล็บทั้งหมดแบบนั้น. 42 00:02:00,260 --> 00:02:02,530 และ, แน่นอน, 4 นี่คูณ 4 นั่น, มันจะเท่ากับ 43 00:02:02,530 --> 00:02:04,520 -- ทีนี้ ขอผมเขียนมันแบบนี้นะ. 44 00:02:04,520 --> 00:02:06,490 นั่นจะเหมือนกับ 4 กำลังสอง. 45 00:02:06,490 --> 00:02:08,850 และผม แทนที่จะเขียน 16, คุณจะเห็นเองว่าทำไม 46 00:02:08,850 --> 00:02:09,890 ผมถึงเขียนอย่างนั้น. 47 00:02:09,890 --> 00:02:11,880 ตอนนี้ผมเขียนนี่ใหม่ได้. 48 00:02:11,880 --> 00:02:15,040 - 49 00:02:15,040 --> 00:02:17,340 นี่จะเท่ากับสแควร์รูท -- ผม 50 00:02:17,340 --> 00:02:21,460 จะเปลี่ยนสีตามใจนะ -- ของ ca ส่วน 2 กำลังสอง. 51 00:02:21,460 --> 00:02:24,390 - 52 00:02:24,390 --> 00:02:25,780 นี่ก็เหมือนกับอันนั้น. 53 00:02:25,780 --> 00:02:25,990 จริงไหม? 54 00:02:25,990 --> 00:02:28,150 ผมแค่เขียนมันเป็น ทั้งหมดนั้นกำลังสอง. 55 00:02:28,150 --> 00:02:30,360 ถ้าผมกำลังสองมัน, นั่นคือ c กำลังสอง a กำลังสอง ส่วน 2 56 00:02:30,360 --> 00:02:34,930 กำลังสอง ส่วน 4, ลบ -- ผมจะ เขียนทั้งหมดนี่ 57 00:02:34,930 --> 00:02:36,520 เป็นพจน์กำลังสอง. 58 00:02:36,520 --> 00:02:40,800 นั่นก็คือ c กำลังสอง บวก a กำลังสอง ลบ 59 00:02:40,800 --> 00:02:45,360 b กำลังสอง, ส่วน 4. 60 00:02:45,360 --> 00:02:47,810 และเราก็กำลังสองทั้งเศษและส่วน. 61 00:02:47,810 --> 00:02:51,410 - 62 00:02:51,410 --> 00:02:53,740 ตอนนี้คุณอาจรู้สึกว่ามันน่าสนใจขึ้นหน่อยแล้ว. 63 00:02:53,740 --> 00:02:56,120 ขอผมเขียนวงเล็บด้วยสีที่ต่างไปหน่อย 64 00:02:56,120 --> 00:03:00,775 คุณอาจทำได้จากเรื่องการแยกตัวประกอบ พหุนามว่าถ้าผม 65 00:03:00,775 --> 00:03:03,460 มีอะไรสักอย่างในรูป x กำลังสอง ลบ y กำลังสอง, นั่น 66 00:03:03,460 --> 00:03:08,520 จะแยกได้เป็น x บวก y คูณ x ลบ y. 67 00:03:08,520 --> 00:03:11,000 และเราจะใช้มันซ้ำแล้วซ้ำอีก. 68 00:03:11,000 --> 00:03:15,590 ตอนนี้ถ้าคุณเรียก ca ส่วน 2 ว่า x, และคูณเรียกก้อนใหญ่ทั้งหมดนี่ 69 00:03:15,590 --> 00:03:19,110 ว่า y, แล้วเราจะได้ x กำลังสอง ลบ y กำลังสอง. 70 00:03:19,110 --> 00:03:20,390 เราก็แยกตัวประกอบมันได้. 71 00:03:20,390 --> 00:03:27,966 ทั้งหมดนี้จะเท่ากับสแควร์รูทของ 72 00:03:27,966 --> 00:03:34,740 x บวก y, หรือในกรณีนี้ มันคือ ca ส่วน 2 บวก y, ซึ่งก็คือ 73 00:03:34,740 --> 00:03:40,960 c กำลังสอง บวก a กำลังสอง ลบ b กำลังสอง ส่วน 4. 74 00:03:40,960 --> 00:03:44,020 คูณ x ลบ y. 75 00:03:44,020 --> 00:03:45,570 นี่ก็คือ x ของเรา. 76 00:03:45,570 --> 00:03:51,370 ca ส่วน 2, ลบเจ้าพวกนี้ทั้งหมตรงนี้. 77 00:03:51,370 --> 00:03:53,840 หรือถ้าจะดีกว่า, ขอผมบอกว่าบวก แล้วขอผม 78 00:03:53,840 --> 00:03:54,680 เขียนเป็นลบ. 79 00:03:54,680 --> 00:04:01,980 ได้ บวก ลบ c กำลังสอง ลบ a กำลังสอง บวก b กำลังสอง. 80 00:04:01,980 --> 00:04:05,140 ทั้งหมดนั่นส่วน 4. 81 00:04:05,140 --> 00:04:10,180 ที่ผมทำไปคือ ผมบอกว่า นี่ก็เหมือนกับ นี่ 82 00:04:10,180 --> 00:04:15,120 บวกนี่, นี่บวกนี่, คูณ นี่ลบนี่, นี่ 83 00:04:15,120 --> 00:04:18,610 ลบ -- ผมแค่บอกว่า บวก ลบของเจ้านี่. 84 00:04:18,610 --> 00:04:21,770 ได้ ลบ c กำลังสอง ลบ a กำลังสอง บวก b กำลังสอง. 85 00:04:21,770 --> 00:04:24,470 ที่ผมทำก็คือเจ้านั่นตรงนั้น. 86 00:04:24,470 --> 00:04:26,610 ทีนี้ลองดูว่าเราจะจัดรูปเจ้านี่ได้ไหม, หรือเราจะ 87 00:04:26,610 --> 00:04:28,870 บวกเศษส่วนนี้ได้หรือไม่. 88 00:04:28,870 --> 00:04:30,680 ทีนี้, เรามีตัวส่วนร่วมแล้ว. 89 00:04:30,680 --> 00:04:35,650 ca ส่วน 2, นั่นก็เหมือนกับ 2ca ส่วน 4. 90 00:04:35,650 --> 00:04:38,910 ca ส่วน 2, นั่นก็เหมือนกับ 2ca ส่วน 4, 91 00:04:38,910 --> 00:04:41,160 แค่คูณทั้งเศษและส่วนด้วย 2. 92 00:04:41,160 --> 00:04:44,420 แล้วตอนนี้เราก็บวกตัวเศษได้. 93 00:04:44,420 --> 00:04:49,540 พจน์ของเราตอนนี้ จะเท่ากับสแควร์รูท 94 00:04:49,540 --> 00:04:55,645 ของพจน์แรกนี้, จะกลายเป็น -- และผมจะ 95 00:04:55,645 --> 00:04:56,460 เขียนมันแบบนี้นะ. 96 00:04:56,460 --> 00:05:07,820 ผมจะเขียน c กำลังสอง บวก 2ca บวก a กำลังสอง ลบ b 97 00:05:07,820 --> 00:05:11,820 กำลังสอง, ทั้งหมดนั่นส่วน 4. 98 00:05:11,820 --> 00:05:13,900 นั่นคือพจน์แรกของเรา. 99 00:05:13,900 --> 00:05:18,010 แล้วพจน์ที่สองของเราจะเป็น -- ทีนี้, 100 00:05:18,010 --> 00:05:20,190 ทุกอย่างจะมีส่วน 4, ผมจึงจะเขียน 101 00:05:20,190 --> 00:05:21,070 มันตรงนี้. 102 00:05:21,070 --> 00:05:21,965 ทุกอย่างส่วน 4. 103 00:05:21,965 --> 00:05:27,280 - 104 00:05:27,280 --> 00:05:36,030 แล้วเราก็เขียนนี่ว่า b กำลังสอง, ลบ c กำลังสอง 105 00:05:36,030 --> 00:05:43,490 ลบ 2ca บวก a กำลังสอง. 106 00:05:43,490 --> 00:05:46,570 ให้แค่แน่ใจ, ผมมี ลบ a กำลังสองตรงนี้. 107 00:05:46,570 --> 00:05:49,320 บวก คูณ ลบ, มันยังเป็น ลบ a กำลังสองอยู่. 108 00:05:49,320 --> 00:05:51,420 ผมมี บวก 2ca ตรงนี้. 109 00:05:51,420 --> 00:05:54,080 ลบ คูณ ลบ, นั่นคือ บวก 2ca. 110 00:05:54,080 --> 00:05:55,580 ผมมีลบ c กำลังสองตรงนี้. 111 00:05:55,580 --> 00:05:57,170 ผมมีลบ c กำลังสองตรงนี้. 112 00:05:57,170 --> 00:06:00,530 สองตัวนี้เท่ากัน. 113 00:06:00,530 --> 00:06:04,630 ตอนนี้สิ่งต่อไปที่เราต้องสังเกต, หรือเรา 114 00:06:04,630 --> 00:06:09,940 หวังจะสังเกตพบ, คือว่าเจ้านี่ตรงนี้ -- มันอาจดู 115 00:06:09,940 --> 00:06:13,690 รกหน่อย -- นั่นเหมือนกับ c บวก a กลังสอง. 116 00:06:13,690 --> 00:06:14,350 ขอผมเขียนนี่ลงไปนะ. 117 00:06:14,350 --> 00:06:20,860 นี่เท่ากับสแควร์รูท, เปิดวงเล็บ, ของ 118 00:06:20,860 --> 00:06:29,940 เจ้านี่ตรงนี้ คือ c บวก a กำลังสอง ลบ b กำลังสอง, ส่วน 4. 119 00:06:29,940 --> 00:06:31,480 นั่นคือเทอมแรกนั่น. 120 00:06:31,480 --> 00:06:33,020 แล้วเทอมที่สอง. 121 00:06:33,020 --> 00:06:35,920 นี่ตรงนี้ก็เหมือนกับ c ลบ a กำลังสอง. 122 00:06:35,920 --> 00:06:39,120 แล้วทั้หงมดนั่นจะจัดรูปเหลือเป็น b กำลังสอง 123 00:06:39,120 --> 00:06:47,470 ลบ c ลบ a กำลังสอง, ทั้งหมดนั่นส่วน 4. 124 00:06:47,470 --> 00:06:48,910 เราก้าวหน้าไปอีกแล้ว. 125 00:06:48,910 --> 00:06:51,830 อย่างที่ผมบอกคุณไว้, นี่เป็นปัญหาที่ยุ่งยาก. 126 00:06:51,830 --> 00:06:53,950 แต่เราจะเห็นการประยุกต์ใช้การแยก 127 00:06:53,950 --> 00:06:57,320 พหุนามได้อย่างสวยงาม, และเราจะ เห็นว่าสมการประหลาดๆ 128 00:06:57,320 --> 00:07:00,160 จะแปลงกายเป็นสมการง่ายๆ ได้อย่างไร 129 00:07:00,160 --> 00:07:02,090 ตอนนี้เราสามารถใช้สมบัติเดียวกันนี้ -- เราได้ว่า 130 00:07:02,090 --> 00:07:04,770 รูปแบบ -- อะไรสักอย่างกำลังสอง ลบอะไรอีกตัวกำลังสอง. 131 00:07:04,770 --> 00:07:07,310 - 132 00:07:07,310 --> 00:07:08,500 เราก็แยกตัวประกอบมันออกมาได้. 133 00:07:08,500 --> 00:07:09,580 และผมจะทำมันในบรรทัดเดียวกัน. 134 00:07:09,580 --> 00:07:12,120 นี่จะเท่ากับ -- ผมจะเขียน 135 00:07:12,120 --> 00:07:14,040 เล็กหน่ย, ผมจะได้มีที่เหลือ -- 136 00:07:14,040 --> 00:07:15,310 สแควร์รูท. 137 00:07:15,310 --> 00:07:20,000 นี่จะแยกได้เป็น นี่บวกนี่. 138 00:07:20,000 --> 00:07:29,510 ได้ c บวก a บวก b คูณ c บวก a ลบ b. 139 00:07:29,510 --> 00:07:29,850 จริงไหม? 140 00:07:29,850 --> 00:07:32,030 นี่ก็เหมือนกับรูปแบบที่เราทำไว้ตรงนี้. 141 00:07:32,030 --> 00:07:34,470 นี่คือ x กำลังสอง, นี่คือ y กำลังสอง. 142 00:07:34,470 --> 00:07:41,760 ได้คูณ c บวก a ลบ b, ทั้งหมดนั่นส่วน 4. 143 00:07:41,760 --> 00:07:43,260 แล้วเราก็ได้อันนี้มา. 144 00:07:43,260 --> 00:07:46,250 นี่จะเท่ากับ b บวก c ลบ a. 145 00:07:46,250 --> 00:07:50,620 - 146 00:07:50,620 --> 00:07:53,180 ขอผมเลื่อนไปทางขวาหน่อย. 147 00:07:53,180 --> 00:07:59,030 คูณ b บวก c ลบ a -- นั่นคือ x บวก y -- คูณ 148 00:07:59,030 --> 00:08:02,640 b ลบ c ลบ a. 149 00:08:02,640 --> 00:08:09,020 หรือมันก็เหมือนกับ b บวก c บวก a. 150 00:08:09,020 --> 00:08:13,110 นี่ก็เหมือนกับ b ลบ c ลบ a. 151 00:08:13,110 --> 00:08:14,140 จริงไหม? 152 00:08:14,140 --> 00:08:14,570 เอาล่ะ. 153 00:08:14,570 --> 00:08:20,370 ทั้งหมดนั่นส่วน 4. 154 00:08:20,370 --> 00:08:23,910 ตอนนี้, ผมเขียนพจน์ทั้งหมดนี้ได้ใหม่. 155 00:08:23,910 --> 00:08:25,580 ผมไม่อยากให้ที่หมด. 156 00:08:25,580 --> 00:08:30,305 ผมเขียนพจน์นี้ทั้งหมดใหม่ว่า, ทีนี้ 4 157 00:08:30,305 --> 00:08:32,955 คือผลคูณของ 2 กับ 2. 158 00:08:32,955 --> 00:08:36,380 - 159 00:08:36,380 --> 00:08:40,620 พจน์ทั้งหมดของเรา, จึงจัดรูป 160 00:08:40,620 --> 00:08:44,780 ได้ว่า มันเท่ากับสแควร์รูท -- นี่ใกล้ถึง 161 00:08:44,780 --> 00:08:50,560 เส้นชัยแล้ว -- ของเจ้านี่ตรงนี้, ซึ่งผมเขียนมันได้เป็น 162 00:08:50,560 --> 00:08:55,780 a บวก b บวก c ส่วน 2. 163 00:08:55,780 --> 00:08:57,690 นั่นคือเทอมนั่นตรงนั้น. 164 00:08:57,690 --> 00:09:00,640 คูณเทอมนี้. 165 00:09:00,640 --> 00:09:02,480 คูณเทอมนั้น. 166 00:09:02,480 --> 00:09:05,340 แล้วผมลดรูปตรงนี้หน่อย. c บวก a 167 00:09:05,340 --> 00:09:13,200 ลบ b, มันก็เหมือนกับ a บวก b บวก c ลบ 2b. 168 00:09:13,200 --> 00:09:14,490 สองอย่างนี้เหมือนกัน. 169 00:09:14,490 --> 00:09:14,700 จริงไหม? 170 00:09:14,700 --> 00:09:19,450 คุณมี a, คุณมี c, แล้ว b ลบ 2b จะ 171 00:09:19,450 --> 00:09:22,510 เท่ากับ ลบ b. 172 00:09:22,510 --> 00:09:24,750 จริงไหม? b ลบ 2b, นั่นคือ ลบ b. 173 00:09:24,750 --> 00:09:29,690 แล้วเทอมต่อไปนี้ จะเป็น a บวก b บวก 174 00:09:29,690 --> 00:09:34,330 c ลบ 2b, ส่วน 2. 175 00:09:34,330 --> 00:09:36,240 หรือแทนที่จะเขียนแบบนั้น, ขอผมเขียนนี่ 176 00:09:36,240 --> 00:09:40,570 เป็นส่วน 2 ลบ นี่ส่วน 2. 177 00:09:40,570 --> 00:09:43,920 แล้วเทอมต่อไปของเราตรงนี้. 178 00:09:43,920 --> 00:09:46,180 เหตุผลเดียวกัน. 179 00:09:46,180 --> 00:09:55,360 มันก็เหมือนกับ a บวก b บวก c ลบ 2a, 180 00:09:55,360 --> 00:09:56,500 ทั้งหมดนั่นส่วน 2. 181 00:09:56,500 --> 00:09:56,770 จริงไหม? 182 00:09:56,770 --> 00:09:59,960 ถ้าเราบวกลบ 2a เข้ากับ a เราจะได้ลบ a. 183 00:09:59,960 --> 00:10:02,040 เราจึงได้ b บวก c ลบ a. 184 00:10:02,040 --> 00:10:03,820 พวกนี้เท่ากัน. 185 00:10:03,820 --> 00:10:06,950 แล้วทั้งหมดนี่ส่วน 2, หรือเราแยกตัวส่วน 186 00:10:06,950 --> 00:10:09,130 แบบนั้น ส่วน 2. 187 00:10:09,130 --> 00:10:10,680 แล้วเทอมสุดท้าย. 188 00:10:10,680 --> 00:10:13,690 คุณคงเห็นกฎ หรือสูตร 189 00:10:13,690 --> 00:10:16,500 ของเฮรอนโผล่ขึ้นมาแล้ว. 190 00:10:16,500 --> 00:10:19,570 ผมคิดว่ามันไม่ใช่กฎของเฮรอนนะ -- สูตรของเฮรอนมากกว่า 191 00:10:19,570 --> 00:10:23,050 เทอมนั่นตรงนั้น ก็เหมือนกับ a 192 00:10:23,050 --> 00:10:27,570 บวก b บวก c ลบ 2c. 193 00:10:27,570 --> 00:10:27,860 จริงไหม? 194 00:10:27,860 --> 00:10:31,200 คุณหัก 2c ออกไปจาก c, แล้วคุณ 195 00:10:31,200 --> 00:10:32,650 จะได้ a กับ b. 196 00:10:32,650 --> 00:10:34,540 แล้วทั้งหมดนั่นส่วน 2. 197 00:10:34,540 --> 00:10:37,640 คุณก็เขียนนั่น ส่วน 2 ลบ นั่นส่วน 2. 198 00:10:37,640 --> 00:10:39,600 และ, แน่นอน, เราต้องใส่สแควร์รูท 199 00:10:39,600 --> 00:10:41,540 ของก้อนทั้งหมดนี้. 200 00:10:41,540 --> 00:10:52,230 ทีนี้, ถ้าเรากำหนด S ให้เท่ากับ a บวก b บวก c ส่วน 201 00:10:52,230 --> 00:10:55,560 2, แล้วสมการนี้ก็จะลดรูปไปได้หน่อย. 202 00:10:55,560 --> 00:10:57,800 เจ้านี่ตรงนี้คือ S. 203 00:10:57,800 --> 00:11:00,130 เจ้านั่นตรงนั้นคือ S. 204 00:11:00,130 --> 00:11:01,705 นั่นตรงนั้นคือ S. 205 00:11:01,705 --> 00:11:03,940 แล้วนั่นตรงนั้นคือ S. 206 00:11:03,940 --> 00:11:07,720 และนี่ก็จะลดรูปไปได้ด้วย. 207 00:11:07,720 --> 00:11:12,030 ลบ 2b ส่วน 2, นั่นก็เหมือนกับ ลบ b. 208 00:11:12,030 --> 00:11:14,880 ลบ 2a ส่วน 2, นั่นก็เหมือนกับ ลบ a. 209 00:11:14,880 --> 00:11:17,100 ลบ 2c ส่วน 2, นั่นก็เหมือนกับ ลบ c. 210 00:11:17,100 --> 00:11:23,590 ดังนั้สมการทั้งหมดนี้ สำหรับพื้นที่ ของเราตอนนี้เท่ากับ -- ผมจะ 211 00:11:23,590 --> 00:11:24,620 เขียนสแควร์รูทใหม่นะ. 212 00:11:24,620 --> 00:11:30,670 ราก, สแควร์รูท, ของ S -- นั่นก็คือเจ้านั่นตรงนั้น. 213 00:11:30,670 --> 00:11:33,550 - 214 00:11:33,550 --> 00:11:34,500 ผมจะใช้สีเดิมนะ. 215 00:11:34,500 --> 00:11:46,890 คูณ S ลบ b, คูณ นี่คือ S ลบ a, คูณ -- แล้วเรา 216 00:11:46,890 --> 00:11:49,555 ก็มาที่ตัวสุดท้าย -- S ลบ c. 217 00:11:49,555 --> 00:11:52,390 - 218 00:11:52,390 --> 00:11:56,510 แล้วเราก็พิสูจน์สูตรของเฮรอนได้แล้วว่า มันเท่ากับ 219 00:11:56,510 --> 00:11:59,410 สิ่งที่เราพิสูจน์ไว้ในวิดีโอก่อนจริงๆ 220 00:11:59,410 --> 00:12:02,250 มันเนี๊ยบมาก. 221 00:12:02,250 --> 00:12:05,910 และเราแค่ต้องคิดเลขยุ่งๆ หน่อย 222 00:12:05,910 --> 00:12:08,150 เพื่อพิสูจน์ออกมา.