WEBVTT 00:00:01.010 --> 00:00:04.520 ขอต้อนรับสู่บทเรียนเรื่อง สมการดีกรีกำลังสอง 00:00:04.520 --> 00:00:06.730 ดังนั้นสมการดีกรีกำลังสอง มันฟังดูเหมือนมัน 00:00:06.730 --> 00:00:07.810 สิ่งที่ดูน่าซับซ้อน 00:00:07.810 --> 00:00:09.930 เเละเมื่อคุณได้เห็นสมการดีกรีกำลังสอง คุณจะ 00:00:09.930 --> 00:00:11.590 พูดว่า เอิ่มม ไม่เพียงเเต่ฟังเเล้วเหมือนกับอะไรที่ซับซ้อน 00:00:11.590 --> 00:00:13.110 เเต่มันเป็นสิ่งที่ซับซ้อนเลย 00:00:13.110 --> 00:00:14.930 เเต่หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในชั้นเรียนนี้ คุณจะเห็น 00:00:14.930 --> 00:00:16.580 ว่ามันไม่ยากจริงๆ 00:00:16.580 --> 00:00:19.040 ผมจะเเสดงให้คุณดูว่า 00:00:19.040 --> 00:00:21.300 มันจะลดรูปได้อย่างไร 00:00:21.300 --> 00:00:24.810 ดังนั้น ในทั่วๆไป คุณเคยได้เรียน การเเยกเเฟกเตอร์(เเยกเป็นวงเล็บ) 00:00:24.810 --> 00:00:25.810 สมการสองดีกรี 00:00:25.810 --> 00:00:30.910 คุณเคยได้เรียน ถ้าผมมี xกำลังสอง ลบ 00:00:30.910 --> 00:00:40.340 x ลบ 6 = 0 00:00:40.340 --> 00:00:42.970 ถ้า ผมมีสมการนี้ (x^2) -x - 6 = 0 00:00:42.970 --> 00:00:48.720 ดังนั้นคุณสามารถ เเยกเเฟกเตอร์เป็น 00:00:48.720 --> 00:00:52.210 (x-3) (x+2) = 0 00:00:52.210 --> 00:00:54.955 สิ่งนี้มีความหมายว่า x-3 =0 หรือ 00:00:54.955 --> 00:00:57.073 x-2 =0 00:00:57.073 --> 00:01:03.512 ดังนั้น x-3 =0 หรือ x-2 =0 00:01:03.512 --> 00:01:08.500 ดังนั้น x= 3หรือ x= -2 00:01:08.500 --> 00:01:17.980 เเละ ถ้าเเสดงเป็นกราฟฟิกของอันนี้ ถ้าผมมี 00:01:17.980 --> 00:01:26.150 ฟังก์ชันของ x ( f(x) ) มีค่าเท่ากับ x กำลังสอง ลบด้วย x ลบด้วยหก ( f(x) = (x^2)-x-6 ) 00:01:26.150 --> 00:01:28.760 ดังนั้น เเกนนี้คือ ฟังก์ชันของเเกน x 00:01:28.760 --> 00:01:32.670 คุณอาจจะคุ้นเคยกับเเกน y มากกว่า สำหรับเป้าหมาย 00:01:32.670 --> 00:01:34.780 ของโจทย์ปัญหาชนิดนี้ มันไม่ใช่สิ่งที่ต้องการ 00:01:34.780 --> 00:01:36.270 เเละนี้คือเเกนx 00:01:36.270 --> 00:01:40.430 ถ้าผมจะเขียนกราฟสมการx^2 - x -6 00:01:40.430 --> 00:01:42.380 มันก็จะมีลักษณะบางอย่างเช่นนี้ 00:01:42.380 --> 00:01:50.130 นี้คือ ฟังก์ชัน ของ x เท่ากับลบ 6 00:01:50.130 --> 00:01:52.900 กราฟที่เป็นชนิดเเบบนี้ก็จะเป็นรูปร่างคล้ายๆเเบบนี้ 00:01:52.900 --> 00:01:57.150 ขึ้นไปๆๆ มันจะขึ้นไปในทิศนี้ 00:02:00.030 --> 00:02:03.150 เเละรู้มันมันจะทะลุผ่าน - 6 เพราะเมื่อ x =0 00:02:03.150 --> 00:02:05.110 ฟังก์ชันของ x มีค่าเท่ากับ -6 00:02:05.110 --> 00:02:07.800 ดังนั้น ผมรู้จะผ่านจุดนี้ไป 00:02:07.800 --> 00:02:11.520 เเละผมรู้ว่า เมื่อฟังก์ชันของ xมีค่าเท่ากับ 0 ดังนั้น ฟังก์ชันของ x จะมีค่าเท่ากับ 00:02:11.520 --> 00:02:14.960 0 ไปตามเเกนxใช่ไหม? 00:02:14.960 --> 00:02:16.600 เพราะว่านี้คือ 1 00:02:16.600 --> 00:02:17.870 นี่คือ 0 00:02:17.870 --> 00:02:19.160 นี่คือ -1 00:02:19.160 --> 00:02:21.510 ดังนั้น นี่คือ ฟังก์ชันของ x เท่ากับ 0 00:02:21.510 --> 00:02:23.420 ตามเเกน x ใช่ไหม? 00:02:23.420 --> 00:02:29.210 เเละ เรารู้ว่ามันเท่ากับ 0 ที่ต่ำเเหน่งx มีค่าเท่ากับ 3 00:02:29.210 --> 00:02:32.330 xเท่ากับ -2 00:02:32.330 --> 00:02:34.360 นั่นเเน่นอนว่า เราต้องเเก้ปัญหา 00:02:34.360 --> 00:02:36.440 เมื่อเรากำลังทำปัญหาเเยกเเฟกเตอร์ เราไม่ 00:02:36.440 --> 00:02:38.940 ตระหนักถึงความชัดเจนสิ่งที่เราทำ 00:02:38.940 --> 00:02:42.070 เเต่ถ้าเราพูดว่า ฟังก์ชันของ x มีค่าเท่ากับ ฟังก์ชันนี้ เรา 00:02:42.070 --> 00:02:43.270 กำลังกำหนดว่าเท่ากับ 0 00:02:43.270 --> 00:02:44.820 ดังนั้น เรากำลังกล่าวว่า ฟังก์ชันนี้ เมื่อ 00:02:44.820 --> 00:02:48.220 ฟังก์ชันเท่ากับ0? 00:02:48.220 --> 00:02:49.390 เมื่อไรที่มันเท่ากับ 0? 00:02:49.390 --> 00:02:51.720 เอิ่มมมม มันมีค่าเท่ากับ 0ที่ต่ำเเหน่งนี้ ใช่ไหม? 00:02:51.720 --> 00:02:55.360 เพราะนี้เป็นสิ่งที่ฟังก์ชันของ x เท่ากับ 0 00:02:55.360 --> 00:02:57.490 เเละหลังจากนั้น อะไรที่เรากำลังทำเมื่อเราเเก้ 00:02:57.490 --> 00:03:01.970 ฟังก์ชันนี้ , เราคิดออก , ค่าของ x ที่ทำให้ฟังก์ชันของ x 00:03:01.970 --> 00:03:04.160 เท่ากับ 0 ซึ่ง เป็นสองจุดนี้ 00:03:04.160 --> 00:03:06.740 เป็นคำศัพท์เฉพาะทางนิดหนึ่ง , มีการเรียกว่า 00:03:06.740 --> 00:03:09.860 ศูนย์ด้วย 00:03:09.860 --> 00:03:12.470 ลองกลับไปดูเล็กน้อย 00:03:14.810 --> 00:03:23.700 ดังนั้น ถ้าผมมี f(x) = x^2 + 00:03:23.700 --> 00:03:29.550 4x + 4 เเละ ผมจะถามคุณ ว่า 00:03:29.550 --> 00:03:31.770 ให้ฟังก์ชันของx เท่ากับ 0 00:03:31.770 --> 00:03:33.970 มันก็เหมือนกับที่บอกว่า ฟังก์ชันของx 00:03:33.970 --> 00:03:36.300 ตัดเเกนx ที่ไหน? 00:03:36.300 --> 00:03:38.210 เเละมันจะตัดกับเเกน x เมื่อฟังก์ชันของ x 00:03:38.210 --> 00:03:39.440 มีค่าเท่ากับ 0 ใช่ไหม 00:03:39.440 --> 00:03:42.120 ถ้าคุณคิดว่าเกี่ยวกับกราฟที่ผมวาด 00:03:42.120 --> 00:03:45.720 ดังนั้น ถ้าฟังก์ชัน x เท่ากับ 0 หลังจากนั้น เราสามารถ 00:03:45.720 --> 00:03:51.860 พูดได้ว่า 0 = x^2 + 4x +4 00:03:51.860 --> 00:03:53.940 เเละเรารู้ว่า เราจะสามารถเเยกเเฟกเตอร์ นั่นก้อคือ 00:03:53.940 --> 00:03:57.080 (x+2) (x+2) 00:03:57.080 --> 00:04:07.090 เเละเรารู้ว่า มันเท่ากับ "0" x= -2 00:04:07.090 --> 00:04:10.170 x = -2 00:04:18.270 --> 00:04:22.380 ดังนั้น ตอนนี้ เรารู้วิธีหา เมื่อ สมการ เป็น ศูนย์โดย 00:04:22.380 --> 00:04:24.560 การเเยกเเฟกเตอร์เเบบง่ายๆ 00:04:24.560 --> 00:04:27.500 เเต่ ลองมาทำโจทย์ที่สมการ 00:04:27.500 --> 00:04:28.850 ยากที่จะเเยกเเฟกเตอร์ 00:04:28.850 --> 00:04:32.120 กล่าวว่า มีฟังก์ชัน ของ xที่มีค่าเท่ากับ 00:04:39.750 --> 00:04:45.380 10 (x^2) +9x +1 00:04:45.380 --> 00:04:47.580 เมื่อผมมองที่นี้ เเม้ว่าผม หารมันด้วยสิบ 00:04:47.580 --> 00:04:48.650 ได้ เลขเศษส่วนตรงนี้ 00:04:48.650 --> 00:04:53.130 เเละมันยากที่จะทำเเฟกเตอร์สมการนี้ 00:04:53.130 --> 00:04:54.860 นี้มันเป็นสิ่งที่ถูกเรียกว่าสมการดีกรีกำลังสอง 00:04:54.860 --> 00:04:57.580 หรือ มีดีกรีเป็นสอง 00:04:57.580 --> 00:04:59.600 ดังนั้น เราจะลองเเก้ปัญหานี้ 00:04:59.600 --> 00:05:02.420 เพราะเราต้องการหาค่าออกเมื่อมันเท่ากับ 0 00:05:02.420 --> 00:05:07.130 - 10 (x^2) -9x +1 00:05:07.130 --> 00:05:09.090 เราต้องการหาค่าของx ที่ทำให้ 00:05:09.090 --> 00:05:11.260 สมการนี้มีค่าเท่ากับ0 00:05:11.260 --> 00:05:13.730 เเละนี้ เราสามารถใช้เครื่องมือที่เรียกว่า สมการดีกรีกำลังสอง 00:05:13.730 --> 00:05:15.625 เเละตอนนี้ผมจะคุณดูเกี่ยวคณิตศาสตร์นิดหนึ่ง 00:05:15.625 --> 00:05:18.030 มันเป็นสิ่งที่ดีที่ควรจะจดจำ 00:05:18.030 --> 00:05:21.330 สมการดีกรีกำลังสอง เป็น รากคำตอบของกำลังสอง 00:05:21.330 --> 00:05:24.810 มาพูดถึงสมการกำลังสองคือ 00:05:24.810 --> 00:05:31.900 a(x^2) +bx +c= 0 00:05:31.900 --> 00:05:35.790 ดังนั้น ในตัวอย่างนี้ a คือ -10 00:05:35.790 --> 00:05:39.940 b คือ 9 c คือ 1 00:05:39.940 --> 00:05:48.040 จากการหารากคำตอบของ x = -b บวกลบ 00:05:48.040 --> 00:05:58.060 (square ของ b) -4*c 00:05:58.060 --> 00:06:00.230 เเล้วเอาทั้งหมดหาร 2a 00:06:00.230 --> 00:06:02.843 ผมรู้ว่า มันดูซับซ้อน เเต่คุณใช้มันมากเท่าไร คุณจะ 00:06:02.843 --> 00:06:04.400 รู้ว่ามันก็ไม่ได้เเย่นะ 00:06:04.400 --> 00:06:07.720 เเละมันเป็นสิ่งที่ดีที่น่าจะจำ 00:06:07.720 --> 00:06:10.730 ดังนั้น เรามาลองใช้สมการกำลังสอง 00:06:10.730 --> 00:06:12.670 เราจะเขียนมันลงไป 00:06:12.670 --> 00:06:15.260 ดังนั้น ผมจะพูดเเละก็ดู a เป็นสัมประสิทธิ์ 00:06:15.260 --> 00:06:18.610 ของเทอม xใช่ไหม 00:06:18.610 --> 00:06:20.300 a เป็น สัมประสิทธิ์ของเทอม x กำลังสอง 00:06:20.300 --> 00:06:23.570 b เป็นสัมประสิทธิ์ของเทอมของ x เเละ c เป้นค่าคงที่ 00:06:23.570 --> 00:06:25.100 เเละลองใส่มันลงในสมการ 00:06:25.100 --> 00:06:26.250 อะไรคือ b? 00:06:26.250 --> 00:06:28.700 เอิ่มมมม b คือ -9 00:06:28.700 --> 00:06:29.970 เราสามารถดูที่นี้ 00:06:29.970 --> 00:06:33.980 b เป็น -9 , a เป็น -10 00:06:33.980 --> 00:06:34.970 c เป็น 1 00:06:34.970 --> 00:06:36.090 ใช่ไหม? 00:06:36.090 --> 00:06:42.350 ดังนั้น ถ้า b เป็น -9 ดังนั้น กล่าวว่า นั้น -9 00:06:42.350 --> 00:06:49.260 บวกหรือลบ กำลังสองของ -9 00:06:49.260 --> 00:06:49.810 มันคือ 81 00:06:49.810 --> 00:06:53.140 81 - (4*a) 00:06:56.940 --> 00:06:59.760 a = -10 00:06:59.760 --> 00:07:03.240 -10 * cซึ่งc มีค่าเท่ากับ1 00:07:03.240 --> 00:07:05.110 ผมรู้ว่า นี้มันยุ่ง เเต่หวังเป็นอย่างยิ่ง 00:07:05.110 --> 00:07:06.470 คุณกำลังจะเข้าใจมัน 00:07:06.470 --> 00:07:09.560 เเละเอาทั้งหมด มาหารด้วย (2*a) 00:07:09.560 --> 00:07:14.050 a = -10 ดังนั้น 2*a = -20 00:07:14.050 --> 00:07:14.990 ทำให้ง่ายๆ 00:07:14.990 --> 00:07:19.410 - 1*(-9)จะได้เป็น +9 00:07:19.410 --> 00:07:26.460 + หรือ - square rootของ 81 00:07:26.460 --> 00:07:30.660 เรามี -4* -10 00:07:30.660 --> 00:07:31.870 นี้คือ -10 00:07:31.870 --> 00:07:33.280 ผมรู้ว่า มันยุ่งมาก ผมขอโทษจริงๆ 00:07:33.280 --> 00:07:34.380 สำหรับนั้น , คูณ 1 00:07:34.380 --> 00:07:39.410 ดังนั้น -4* -10 = 40 00:07:39.410 --> 00:07:41.040 +40 00:07:41.040 --> 00:07:46.070 เเละหลังจากนั้น เราก็เอาทั้งหมดไปหารด้วย -20 00:07:46.070 --> 00:07:48.300 เอิ่ม 81+40 =121 00:07:48.300 --> 00:07:52.330 ดังนั้น นี้คือ 9+หรือ - รากที่สอง 00:07:52.330 --> 00:07:58.290 ของ 121 เเล้วหารด้วย -20 00:07:58.290 --> 00:08:01.620 รากที่สองของ 121 มีค่าเท่ากับ 11 00:08:01.620 --> 00:08:03.170 ผมจะไปที่นี้ 00:08:03.170 --> 00:08:06.184 หวังเป็นอย่างยิ่งว่า คุณจะไม่เลิกติดตาม สิง่ที่ผมกำลังทำ 00:08:06.184 --> 00:08:13.720 ดังนั้นนี้คือ 9 +หรือ - 11 เเล้วหารด้วย -20 00:08:13.720 --> 00:08:19.090 เเละดังนั้น ถ้าเราพูดว่า 9+11 เเล้วหารด้วย -20 เเสดง่ามันคือ 00:08:19.090 --> 00:08:22.540 9+11 = 20 เเล้ว 20 หาร -20 00:08:22.540 --> 00:08:23.730 สิ่งนั้นจะเท่ากับ -1 00:08:23.730 --> 00:08:24.900 ดังนั้นนี่คือ หนึ่งราก (หนึ่งคำตอบ) 00:08:24.900 --> 00:08:28.260 นี้คือ 9 + เพราะนี้เป็น บวกหรือลบ 00:08:28.260 --> 00:08:33.790 เเละ อีกรากต้องเป็น 9 -11 เเล้ว -20 00:08:33.790 --> 00:08:37.720 ซึ่งมีค่าเท่ากับ -2 เเล้วหารด้วย -20 00:08:37.720 --> 00:08:40.700 จะได้ค่าเท่ากับ 1/10 00:08:40.700 --> 00:08:42.690 ดังนั้น นี้คืออีกรากหนึ่ง 00:08:42.690 --> 00:08:48.950 ดังนั้น ถ้า เราเขียนกราฟ เราจะเห็นว่า 00:08:48.950 --> 00:08:52.640 มันคือจุดตัดที่เเกน x 00:08:52.640 --> 00:08:57.770 หรือ ฟังก์ชัน ของx เท่ากับ 0 ที่จุดx มีค่าเท่ากับ -1 00:08:57.770 --> 00:09:01.690 เเละ มีค่าเท่ากับ 1/10 00:09:01.690 --> 00:09:04.080 ผมจะทำตัวอย่างมากกว่านี้ ในส่วนที่สองเพราะผม 00:09:04.080 --> 00:09:06.100 คิดว่า ผมอาจจะทำให้คุณ 00:09:06.100 --> 00:09:08.120 สับสนในตัวอย่างนี้ 00:09:08.120 --> 00:09:11.680 ดังนั้น ผมจะพบคุณในวิดีโอที่สอง ของการใช้ 00:09:11.680 --> 00:09:12.150 สมการกำลังสอง