1 00:00:00,800 --> 00:00:03,017 ลองดูตัวอย่างกันดีกว่า 2 00:00:03,017 --> 00:00:07,036 แค่ให้เรามั่นใจว่าเราเข้าใจฟังก์ชันตรีโกณฯ นี่ดีพอ 3 00:00:07,036 --> 00:00:11,447 ลองสร้างสามเหลี่ยมมุมฉากขึ้นมา 4 00:00:11,447 --> 00:00:13,668 ลองสร้างสามเหลี่ยมมุมฉากขึ้นมา 5 00:00:13,668 --> 00:00:15,186 ผมอยากให้มันชัดเจน 6 00:00:15,186 --> 00:00:18,042 วิธีที่ผมนิยามมันขึ้นมา, มันใช้ได้กับสามเหลี่ยมมุมฉากเท่านั้น 7 00:00:18,042 --> 00:00:23,475 หากคุณพยายามหาฟังก์ชันตรีโกณฯ ของมุมที่ไม่ได้อยู่ในสามเหลี่ยมมุมฉาก, 8 00:00:23,475 --> 00:00:25,704 เราจะเห็นว่าเราต้องสร้างสามเหลี่ยมมุมฉากก่อน, 9 00:00:25,704 --> 00:00:27,867 แต่ตอนนี้ดูแค่สามเหลี่ยมมุมฉากก่อนนะ 10 00:00:27,867 --> 00:00:31,344 สมมุติว่าผมมีสามเหลี่ยม 11 00:00:31,344 --> 00:00:33,897 โดยสมมุติว่าความยาวนี่ตรงนี้คือ 7, 12 00:00:33,897 --> 00:00:37,757 และสมมุติว่าความยาวด้านนี่บนนี้, 13 00:00:37,757 --> 00:00:39,452 สมมุติว่ายาว 4 14 00:00:39,452 --> 00:00:42,516 ลองหาว่าด้านตรงข้ามมุมฉากเป็นเท่าไหร่ 15 00:00:42,516 --> 00:00:45,720 เรารู้ว่า -- เรียกด้านตรงข้ามมุมฉากว่า 'h' แล้วกัน -- 16 00:00:45,720 --> 00:00:52,200 เรารู้ว่า h กำลังสอง จะเท่ากับ 7 กำลังสอง บวก 4 กำลังสอง 17 00:00:52,200 --> 00:00:55,194 เรารู้มาจากทฤษฎีบทปีทาโกรัส 18 00:00:55,194 --> 00:00:57,469 ว่าด้านตรงข้ามมุมฉากกำลังสอง เท่ากับ 19 00:00:57,469 --> 00:01:01,974 กำลังสองของแต่ละด้าน ผลรวมของแต่ละด้านที่เหลือกำลังสอง 20 00:01:01,974 --> 00:01:04,533 h กำลังสอง เท่ากับ 7 กำลังสอง บวก 4 กำลังสอง 21 00:01:04,533 --> 00:01:09,776 นี่ก็เท่ากับ 49 บวก 16 22 00:01:09,776 --> 00:01:11,800 49 บวก 16 23 00:01:11,800 --> 00:01:18,553 49 บวก 10 คือ 49, บวก 6 ได้ 65 24 00:01:18,553 --> 00:01:21,107 มันคือ 65 25 00:01:21,107 --> 00:01:25,705 ขอผมเขียนลงไปนะ: h กำลังสอง -- นั่นคืดสีเหลืองอีกแบบนึง -- 26 00:01:25,705 --> 00:01:28,818 เราได้ h กำลังสอง เท่ากับ 65 27 00:01:28,818 --> 00:01:33,533 ผมทำถูกไหม? 49 บวก 10 ได้ 59, บวก 6 อีก ได้ 65, 28 00:01:33,533 --> 00:01:37,600 หรือเราอาจบอกว่า h เท่ากับ, หากเราใส่สแควร์รูททั้งสองข้าง, 29 00:01:37,600 --> 00:01:39,200 สแควร์รูท 30 00:01:39,200 --> 00:01:42,933 สแควร์รูทของ 65 แล้วเราทำต่อไปไม่ได้อีก 31 00:01:42,933 --> 00:01:44,699 นี่คือ 13 32 00:01:44,699 --> 00:01:47,463 นี่เหมือนกับ 13 คูณ 5, 33 00:01:47,463 --> 00:01:50,388 ทั้งสองตัวนี้ไม่ใช่กำลังสองสมบูรณ์ และ 34 00:01:50,388 --> 00:01:51,804 ทั้งคู่ก็เป็นจำนวนเฉพาะ คุณเลยลดรูปมันอีกไม่ได้แล้ว 35 00:01:51,804 --> 00:01:55,467 นี่เลยเท่ากับสแควร์รูทของ 65 36 00:01:55,467 --> 00:02:02,114 ทีนี้ลองหาตรีโกณฯ, ลองหาฟังก์ชันตรีโกณฯ สำหรับมุมนี่ตรงนี้กัน 37 00:02:02,114 --> 00:02:05,457 เรียกมุมบนนี้ว่า ทีต้า นะ 38 00:02:05,457 --> 00:02:06,533 เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณทำ 39 00:02:06,533 --> 00:02:09,467 คุณควรเขียนลงไป -- อย่างน้อยสำหรับผม ควรเขียนลงไป -- 40 00:02:09,467 --> 00:02:11,714 "SOH CAH TOA" 41 00:02:11,714 --> 00:02:13,120 SOH... 42 00:02:13,120 --> 00:02:16,464 ...SOH CAH TOA ผมจำได้เลือนราง 43 00:02:16,464 --> 00:02:18,786 จากครูสอนตรีโกณมิติของผม 44 00:02:18,786 --> 00:02:21,293 บางทีผมอาจจำมาจากหนังสือ ไม่รู้สิ -- คุณก็รู้, พวก... 45 00:02:21,293 --> 00:02:23,867 เจ้าชายอินเดียชื่อ "SOH CAH TOA" หรืออะไรก็ช่าง, 46 00:02:23,867 --> 00:02:26,123 แต่มันวลีช่วยจำที่มีประโยชน์, 47 00:02:26,123 --> 00:02:27,564 เราก็ใช้ "SOH CAH TOA" 48 00:02:27,564 --> 00:02:31,046 ลองหา, สมมุติว่าเราอยากหาโคไซน์ 49 00:02:31,046 --> 00:02:34,436 เราอยากหาโคไซน์ของมุมนี้ 50 00:02:34,436 --> 00:02:37,965 เราอยากหาโคไซน์ของมุมนี้, คุณก็บอกว่า "SOH CAH TOA!" 51 00:02:37,965 --> 00:02:40,800 งั้น "CAH", "CAH" บอกเราว่าจะคิดโคไซน์ยังไง 52 00:02:40,800 --> 00:02:43,027 "CAH" บอกเราว่า 53 00:02:43,027 --> 00:02:46,371 โคไซน์คือด้านประชิดส่วนด้านตรงข้ามมุมฉาก 54 00:02:46,371 --> 00:02:51,433 โคไซน์เท่ากับด้านประชิดส่วนด้านตรงข้ามมุมฉาก 55 00:02:51,433 --> 00:02:55,798 ลองดูตรงนี้ที่ทีต้า, ด้านไหนคือด้านประชิด? 56 00:02:55,798 --> 00:02:57,702 เรารู้ว่าด้านตรงข้ามมุมฉาก, 57 00:02:57,702 --> 00:03:00,767 เรารู้ว่าด้านตรงข้ามมุมฉากคือด้านนี่ตรงนี้ 58 00:03:00,767 --> 00:03:04,761 มันเป็นด้านนั้นไม่ได้ อีกด้านก็อยู่ชิดกับมัน เลยไม่ใช่ 59 00:03:04,761 --> 00:03:07,133 ด้านตรงข้ามมุมฉาก, คือ 4 นี่ 60 00:03:07,133 --> 00:03:10,473 ดังนั้นด้านประชิดตรงนี้, ด้านนั่น, 61 00:03:10,473 --> 00:03:14,374 มันก็คือด้านที่ติดกับมุม 62 00:03:14,374 --> 00:03:15,754 มันคือด้านด้านหนึ่งที่ประกอบเป็นมุม 63 00:03:15,754 --> 00:03:17,133 มันคือ 4 ส่วนด้านตรงข้ามมุมฉาก 64 00:03:17,133 --> 00:03:21,108 เรารู้แล้วว่าด้านตรงข้ามมุมฉากคือสแควร์รูทของ 65 65 00:03:21,108 --> 00:03:25,380 มันก็คือ 4 ส่วนสแควร์รูทของ 65 66 00:03:25,380 --> 00:03:29,142 บางครั้งคนชอบให้คุณทำส่วนเป็นตรรกยะ ซึ่งหมายความว่า 67 00:03:29,142 --> 00:03:32,625 เขาไม่ชอบให้เลขอตรรกยะอยู่เป็นตัวส่วน 68 00:03:32,625 --> 00:03:35,227 อย่างเช่นสแควร์รูทของ 65 69 00:03:35,227 --> 00:03:39,359 และหากเขา -- หากคุณอยากเขียนนี่ใหม่โดยไม่ให้ตัวส่วนเป็นอตรรกยะ, 70 00:03:39,359 --> 00:03:41,634 คุณก็คูณทั้งเศษและส่วน 71 00:03:41,634 --> 00:03:43,306 ด้วยสแควร์รูทของ 65 72 00:03:43,306 --> 00:03:45,094 นี่จะไม่เปลี่ยนค่าตัวเลช 73 00:03:45,094 --> 00:03:48,122 เพราะเราคูณมันด้วย อะไรสักอย่างส่วนตัวเอง, 74 00:03:48,122 --> 00:03:49,111 มันเลยเหมือนคุณด้วยหนึ่ง 75 00:03:49,111 --> 00:03:52,780 มันไม่เปลี่ยนเลข, แต่อย่างน้อยมันกำจัดเลขอตรรกยะในตัวส่วน 76 00:03:52,780 --> 00:03:54,127 ตัวเศษจะกลายเป็น 77 00:03:54,127 --> 00:03:57,800 4 คูณสแควร์รูทของ 65 78 00:03:57,800 --> 00:04:03,461 และตัวส่วน, สแควร์รูทของ 65 คูณสแควร์รูทของ 65, จะเท่ากับ 65 79 00:04:03,461 --> 00:04:07,130 เราไม่ได้กำจัดเลขอตรรกยะ, มันยังอยู่, แต่ตอนนี้มันอยู่ที่ตัวเศษ 80 00:04:07,130 --> 00:04:09,777 ทีนี้ลองดูฟังก์ชันตรีโกณฯ อื่น 81 00:04:09,777 --> 00:04:12,401 หรืออย่างน้อยก็ฟังก์ชันตรีโกณฯ พื้นฐานตัวอื่นกัน 82 00:04:12,401 --> 00:04:14,399 เราจะเรียนต่อไปว่ามันยังมีอีกเยอะ 83 00:04:14,399 --> 00:04:15,443 แต่พวกมันมาจากเจ้าพวกนี้ 84 00:04:15,443 --> 00:04:19,733 ลองนึกว่าไซน์ของทีต้าคืออะไร เหมือนเดิม ดูที่ "SOH CAH TOA" 85 00:04:19,733 --> 00:04:25,474 "SOH" บอกวิธีจัดการไซน์ ไซน์คือ ตรงข้าม ส่วน ตรงข้ามมุมฉาก 86 00:04:25,474 --> 00:04:29,200 ไซน์เท่ากับด้านตรงข้ามส่วนด้านตรงข้ามมุมฉาก 87 00:04:29,200 --> 00:04:31,372 ไซน์คือ ข้าม ส่วน ฉาก 88 00:04:31,372 --> 00:04:34,390 สำหรับมุมนี้ ด้านไหนคือด้านตรงข้าม? 89 00:04:34,390 --> 00:04:38,430 เราแค่ไปตรงข้าม, มันเปิดไปหา, มันตรงข้ามกับ 7 90 00:04:38,430 --> 00:04:41,200 งั้นด้านตรงข้ามคือ 7 91 00:04:41,200 --> 00:04:44,468 นี่คือ, ตรงนี้ -- นั่นคือด้านตรงข้าม 92 00:04:44,468 --> 00:04:47,800 แล้วด้านตรงข้ามมุมฉาก, มันอยู่ตรงข้ามมุมฉาก 93 00:04:47,800 --> 00:04:51,109 ด้านตรงข้ามมุมฉากคือ สแควร์รูทของ 65 94 00:04:51,109 --> 00:04:52,966 สแควร์รูทของ 65 95 00:04:52,966 --> 00:04:55,133 เหมือนเดิม หากเราทำส่วนเป็นจำนวนตรรกยะ, 96 00:04:55,133 --> 00:04:59,933 เราก็คูณมันด้วยสแควร์รูทของ 65 ส่วนสแควร์รูทของ 65 97 00:04:59,933 --> 00:05:04,298 และตัวเศษ, เราจะได้ 7 ส่วนสแควร์รูทของ 65 98 00:05:04,298 --> 00:05:07,966 แล้วตัวส่วน เราจะได้ 65 เหมือนเดิม 99 00:05:07,966 --> 00:05:10,474 ทีนี้ลองทำแทนเจนต์กัน! 100 00:05:10,474 --> 00:05:12,796 ลองหาแทนเจนต์กัน 101 00:05:12,796 --> 00:05:14,793 หากผมถามคุณว่าแทนเจนต์ 102 00:05:14,793 --> 00:05:17,394 แทนเจนต์ของทีต้า 103 00:05:17,394 --> 00:05:20,784 เหมือนเดิม กลับไปที่ "SOH CAH TOA" 104 00:05:20,784 --> 00:05:23,106 TOA บอกเราว่าทำยังไงกับแทนเจนต์ 105 00:05:23,106 --> 00:05:24,800 มันบอกเราว่า... 106 00:05:24,800 --> 00:05:27,053 มันบอกเราว่าแทนเจนต์ 107 00:05:27,053 --> 00:05:29,867 เท่ากับด้านตรงข้าม ส่วนด้านประชิด 108 00:05:29,867 --> 00:05:33,137 เท่ากับด้านตรงข้าม ส่วน 109 00:05:33,137 --> 00:05:35,867 ด้านตรงข้าม ส่วน ด้านประชิด 110 00:05:35,867 --> 00:05:38,709 สำหรับมุมนี้, ด้านตรงข้ามคืออะไร? เราหาไปแล้ว 111 00:05:38,709 --> 00:05:41,124 มันคือ 7, มันเปิดหาด้าน 7 112 00:05:41,124 --> 00:05:42,533 มันตรงข้ามกับ 7 113 00:05:42,533 --> 00:05:46,372 มันก็คือ 7 ส่วนด้วย ด้านไหนคือด้านประชิด 114 00:05:46,372 --> 00:05:48,200 4 นี่คือด้านประชิด 115 00:05:48,200 --> 00:05:51,295 4 นี่คือชิด ด้านประชิดก็คือ 4 116 00:05:51,295 --> 00:05:54,330 มันเลยเป็น 7 ส่วน 4, 117 00:05:54,330 --> 00:05:56,133 แล้วเราก็ได้แล้ว 118 00:05:56,133 --> 00:05:59,375 เราหาอัตราส่วนตรีโกณฯ ทั้งหมดของทีต้าได้แล้ว ลองทำอีกอันนึง 119 00:05:59,375 --> 00:06:00,416 ลองดูอีกตัวอย่างนึง