[Script Info] Title: [Events] Format: Layer, Start, End, Style, Name, MarginL, MarginR, MarginV, Effect, Text Dialogue: 0,0:00:00.14,0:00:03.00,Default,,0000,0000,0000,,มนุษย์เรารู้กันมาเป็นพันปีแล้ว Dialogue: 0,0:00:03.00,0:00:05.87,Default,,0000,0000,0000,,เมื่อมองดูสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา Dialogue: 0,0:00:05.87,0:00:07.21,Default,,0000,0000,0000,,จะพบว่ามีสารต่าง ๆ แตกต่างกัน Dialogue: 0,0:00:07.21,0:00:10.33,Default,,0000,0000,0000,,สารที่แตกต่างกันเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันด้วย Dialogue: 0,0:00:10.33,0:00:11.95,Default,,0000,0000,0000,,และไม่เพียงแต่คุณสมบัติที่แตกต่างกันเท่านั้น Dialogue: 0,0:00:11.95,0:00:14.74,Default,,0000,0000,0000,,สารแต่ละชนิด อาจสะท้อนแสงแตกต่างกัน หรืออาจไม่สะท้อนแสงเลย Dialogue: 0,0:00:14.74,0:00:17.60,Default,,0000,0000,0000,,หรืออาจมีสี มีอุณหภูมิที่จำเพาะ Dialogue: 0,0:00:17.60,0:00:20.46,Default,,0000,0000,0000,,อาจเป็นของเหลว หรือก๊าซ หรือของแข็ง Dialogue: 0,0:00:20.46,0:00:22.11,Default,,0000,0000,0000,,มนุษย์เรายังได้สังเกตด้วยว่า Dialogue: 0,0:00:22.11,0:00:24.87,Default,,0000,0000,0000,,สารเหล่านี้ทำปฏิกิริยาต่อกันอย่างไรในสภาวะต่าง ๆ Dialogue: 0,0:00:24.87,0:00:27.66,Default,,0000,0000,0000,,และนี่คือตัวอย่างรูปภาพของสาร Dialogue: 0,0:00:27.66,0:00:31.48,Default,,0000,0000,0000,,ภาพนี้คือคาร์บอน และนี่คือคาร์บอนในรูปแกรไฟต์ Dialogue: 0,0:00:31.48,0:00:36.07,Default,,0000,0000,0000,,นี่คือตะกั่ว และภาพนี้คือทอง Dialogue: 0,0:00:36.07,0:00:38.72,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งรูปทั้งหมดนี้ Dialogue: 0,0:00:38.72,0:00:41.37,Default,,0000,0000,0000,,จะมีอยู่ในเวปไซต์ตรงโน้นนะครับ Dialogue: 0,0:00:41.37,0:00:43.90,Default,,0000,0000,0000,,สารที่กล่าวมานี้เป็นของแข็งทั้งหมด Dialogue: 0,0:00:43.90,0:00:47.40,Default,,0000,0000,0000,,แต่เราก็รู้ว่าสารบางอย่างอยู่ในอากาศ Dialogue: 0,0:00:47.40,0:00:49.34,Default,,0000,0000,0000,,เป็นอนุภาคในอากาศ Dialogue: 0,0:00:49.34,0:00:52.21,Default,,0000,0000,0000,,ขึ้นอยู่กับว่าอนุภาคในอากาศชนิดไหนที่เรากำลังดู Dialogue: 0,0:00:52.21,0:00:55.08,Default,,0000,0000,0000,,ไม่ว่าจะเป็นคาร์บอน ออกซิเจน หรือไนโตรเจน Dialogue: 0,0:00:55.08,0:00:57.95,Default,,0000,0000,0000,,ก็ดูเหมือนจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน Dialogue: 0,0:00:57.95,0:00:59.42,Default,,0000,0000,0000,,หรือ มีสารอื่น ๆ ที่เป็นของเหลว Dialogue: 0,0:00:59.42,0:01:02.08,Default,,0000,0000,0000,,หรือ ถ้าคุณเพิ่มอุณหภูมิของสารเหล่านี้ให้สูงพอ Dialogue: 0,0:01:02.08,0:01:05.02,Default,,0000,0000,0000,,เช่น ถ้าเพิ่มอุณหภูมิของทองและตะกั่วให้สูงมากพอ Dialogue: 0,0:01:05.02,0:01:06.50,Default,,0000,0000,0000,,ทองและตะกั่วก็จะเปลี่ยนเป็นรูปของเหลว Dialogue: 0,0:01:06.50,0:01:09.84,Default,,0000,0000,0000,,หรือ ถ้าคุณเผาคาร์บอน Dialogue: 0,0:01:09.84,0:01:12.08,Default,,0000,0000,0000,,ก็จะได้ก๊าซ Dialogue: 0,0:01:12.08,0:01:13.35,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งคุณสามารถปล่อยเข้าสู่ชั้นบรรยากาศได้ Dialogue: 0,0:01:13.35,0:01:14.70,Default,,0000,0000,0000,,คุณสามารถทำให้สารเหล่านี้มีขนาดเล็กลงได้ Dialogue: 0,0:01:14.70,0:01:17.27,Default,,0000,0000,0000,,สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้คือ Dialogue: 0,0:01:17.27,0:01:20.58,Default,,0000,0000,0000,,สิ่งที่มนุษย์ได้สังเกตเห็นมานานหลายพันปีแล้ว Dialogue: 0,0:01:20.58,0:01:22.45,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งการสังเกตเหล่านี้ทำให้เกิดคำถามขึ้น Dialogue: 0,0:01:22.45,0:01:24.23,Default,,0000,0000,0000,,แล้วก็นำไปสู่การตั้งคำถามเชิงปรัชญาขึ้น Dialogue: 0,0:01:24.23,0:01:26.40,Default,,0000,0000,0000,,แต่ตอนนี้ เราอาจจะตอบคำถามเหล่านี้ได้บ้าง Dialogue: 0,0:01:26.40,0:01:30.90,Default,,0000,0000,0000,,เช่น ถ้าคุณทำให้คาร์บอนชิ้นนี้ Dialogue: 0,0:01:30.90,0:01:33.52,Default,,0000,0000,0000,,แตกออกเป็นชิ้นเล็กลงเรื่อย ๆ Dialogue: 0,0:01:33.52,0:01:35.55,Default,,0000,0000,0000,,จนได้ชิ้นที่เล็กที่สุด Dialogue: 0,0:01:35.55,0:01:39.87,Default,,0000,0000,0000,,ชิ้นเล็ก ๆ เหล่านี้ (ของคาร์บอน) Dialogue: 0,0:01:39.87,0:01:43.17,Default,,0000,0000,0000,,จะยังมีคุณสมบัติของคาร์บอนอยู่หรือไม่? Dialogue: 0,0:01:43.17,0:01:45.26,Default,,0000,0000,0000,,และถ้าคุณทำให้ขนาดเล็กลงไปอีก Dialogue: 0,0:01:45.26,0:01:48.39,Default,,0000,0000,0000,,คุณจะสูญเสียคุณสมบัติต่าง ๆ ของคาร์บอนนี้หรือไม่? Dialogue: 0,0:01:48.39,0:01:50.35,Default,,0000,0000,0000,,คำตอบก็คือ ใช่ Dialogue: 0,0:01:50.35,0:01:52.20,Default,,0000,0000,0000,,เรามีคำศัพท์ที่เรียกสารที่มีความแตกต่างกันเหล่านี้ Dialogue: 0,0:01:52.20,0:01:56.16,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งเป็นสารบริสุทธิ์ (มีเพียงชนิดเดียว) Dialogue: 0,0:01:56.16,0:01:59.02,Default,,0000,0000,0000,,มีคุณสมบัติที่จำเพาะ ที่อุณหภูมิหนึ่ง ๆ Dialogue: 0,0:01:59.02,0:02:01.18,Default,,0000,0000,0000,,และสามารถทำปฏิกิริยาบางอย่างได้นี้ Dialogue: 0,0:02:01.18,0:02:05.29,Default,,0000,0000,0000,,เราเรียกว่า "ธาตุ" Dialogue: 0,0:02:05.29,0:02:08.73,Default,,0000,0000,0000,,คาร์บอนเป็นธาตุชนิดหนึ่ง ตะกั่วเป็นธาตุชนิดหนึ่ง และทองก็เป็นธาตุชนิดหนึ่ง Dialogue: 0,0:02:08.73,0:02:10.40,Default,,0000,0000,0000,,คุณอาจจะบอกว่า น้ำก็เป็นธาตุชนิดหนึ่ง Dialogue: 0,0:02:10.40,0:02:14.22,Default,,0000,0000,0000,,ในอดีต มนุษย์เชื่อว่าน้ำจัดเป็นธาตุ Dialogue: 0,0:02:14.22,0:02:17.89,Default,,0000,0000,0000,,แต่ตอนนี้ เราทราบแล้วว่า น้ำประกอบด้วยธาตุมากกว่า 1 ชนิด Dialogue: 0,0:02:17.89,0:02:20.40,Default,,0000,0000,0000,,คือออกซิเจน และไฮโดรเจน Dialogue: 0,0:02:20.40,0:02:25.01,Default,,0000,0000,0000,,และธาตุทั้งหมด จะเขียนไว้ที่นี่ Dialogue: 0,0:02:25.01,0:02:27.76,Default,,0000,0000,0000,,ใน "ตารางธาตุ" Dialogue: 0,0:02:27.76,0:02:29.37,Default,,0000,0000,0000,,C ย่อมาจากคาร์บอน Dialogue: 0,0:02:29.37,0:02:30.40,Default,,0000,0000,0000,,ผมจะเลือกให้ดูธาตุที่มีความสำคัญต่อมนุษยชาติ Dialogue: 0,0:02:30.40,0:02:32.38,Default,,0000,0000,0000,,ผมจะเลือกให้ดูธาตุที่มีความสำคัญต่อมนุษยชาติ Dialogue: 0,0:02:32.38,0:02:35.50,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งคุณน่าจะคุ้นเคยกับธาตุเหล่านี้อยู่แล้ว Dialogue: 0,0:02:35.50,0:02:39.15,Default,,0000,0000,0000,,เช่น ออกซิเจน ไนโตรเจน ซิลิคอน Dialogue: 0,0:02:39.15,0:02:42.87,Default,,0000,0000,0000,,นี่คือ Au คือทองคำ นี่คือตะกั่ว Dialogue: 0,0:02:42.87,0:02:51.100,Default,,0000,0000,0000,,และส่วนประกอบพื้นฐานของธาตุเหล่านี้ ก็คือ "อะตอม" Dialogue: 0,0:02:51.100,0:02:54.56,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าคุณทำให้สารเหล่านี้เล็กลงเรื่อย ๆ Dialogue: 0,0:02:54.56,0:02:57.08,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าคุณทำให้สารเหล่านี้เล็กลงเรื่อย ๆ Dialogue: 0,0:02:57.08,0:02:59.42,Default,,0000,0000,0000,,ในที่สุด คุณจะได้อะตอมของคาร์บอน Dialogue: 0,0:02:59.42,0:03:00.76,Default,,0000,0000,0000,,เช่นเดียวกันกับทองคำ Dialogue: 0,0:03:00.76,0:03:02.54,Default,,0000,0000,0000,,ในที่สุด คุณจะได้อะตอมของทองคำ Dialogue: 0,0:03:02.54,0:03:03.99,Default,,0000,0000,0000,,เช่นเดียวกันกับสิ่งนี้ Dialogue: 0,0:03:03.99,0:03:05.86,Default,,0000,0000,0000,,ในที่สุดคุณจะได้ชิ้นส่วนขนาดเล็กมาก Dialogue: 0,0:03:05.86,0:03:07.76,Default,,0000,0000,0000,,จะใช้คำว่าอะไรดี -- อนุภาค Dialogue: 0,0:03:07.76,0:03:09.18,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งเรียกว่า อะตอมของตะกั่ว Dialogue: 0,0:03:09.18,0:03:11.24,Default,,0000,0000,0000,,และคุณจะไม่สามารถทำให้อะตอมมีขนาดเล็กลงได้อีกต่อไป Dialogue: 0,0:03:11.24,0:03:13.60,Default,,0000,0000,0000,,และยังคงเรียกว่า ตะกั่ว Dialogue: 0,0:03:13.60,0:03:17.04,Default,,0000,0000,0000,,เพราะมันยังมีคุณสมบัติของตะกั่วอยู่ Dialogue: 0,0:03:17.04,0:03:18.33,Default,,0000,0000,0000,,...ผมอยากบอกว่า Dialogue: 0,0:03:18.33,0:03:21.19,Default,,0000,0000,0000,,นี่เป็นสิ่งที่ผมมีปัญหาอย่างมากในการจินตนาการ Dialogue: 0,0:03:21.19,0:03:24.04,Default,,0000,0000,0000,,ว่า อะตอมมีขนาดเล็กอย่างไม่น่าเชื่อ Dialogue: 0,0:03:24.04,0:03:25.90,Default,,0000,0000,0000,,จริง ๆ ครับ ....มันมีขนาดเล็กกว่าที่คุณคิด Dialogue: 0,0:03:25.90,0:03:27.56,Default,,0000,0000,0000,,ยกตัวอย่าง... คาร์บอน Dialogue: 0,0:03:27.56,0:03:29.38,Default,,0000,0000,0000,,เส้นผมของผม ก็มาจากคาร์บอน Dialogue: 0,0:03:29.38,0:03:31.88,Default,,0000,0000,0000,,อันที่จริง ตัวผมเกือบทั้งตัว ก็มาจากคาร์บอน Dialogue: 0,0:03:31.88,0:03:35.91,Default,,0000,0000,0000,,ที่จริงแล้ว สิ่งมีชีวิตเกือบทุกชนิดก็มาจากคาร์บอน Dialogue: 0,0:03:35.91,0:03:40.53,Default,,0000,0000,0000,,เพราะฉะนั้น ถ้าคุณดึงเอาเส้นผมของผมไป.. เส้นผมของผมก็เป็นคาร์บอน Dialogue: 0,0:03:40.53,0:03:42.23,Default,,0000,0000,0000,,เส้นผมของผม ประกอบด้วยคาร์บอนเป็นส่วนใหญ่ Dialogue: 0,0:03:42.23,0:03:43.99,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้นถ้าคุณดึงเอาเส้นผมของผมตรงนี้ไป Dialogue: 0,0:03:43.99,0:03:45.56,Default,,0000,0000,0000,,เส้นผมของผมไม่ใช่สีเหลืองนะครับ Dialogue: 0,0:03:45.56,0:03:46.77,Default,,0000,0000,0000,,แต่เส้นผมอันนี้ สีมันตัดกับสีดำ Dialogue: 0,0:03:46.77,0:03:47.95,Default,,0000,0000,0000,,เส้นผมของผมเป็นสีดำ แต่ถ้าผมใช้ของตัวเอง Dialogue: 0,0:03:47.95,0:03:49.71,Default,,0000,0000,0000,,คุณจะไม่มองไม่เห็นบนหน้าจอ Dialogue: 0,0:03:49.71,0:03:51.97,Default,,0000,0000,0000,,... ถ้าคุณเอาเส้นผมไป ผมอยากทราบว่า..... Dialogue: 0,0:03:51.97,0:03:55.20,Default,,0000,0000,0000,,เส้นผมของผม มีคาร์บอนจำนวนกี่อะตอม? Dialogue: 0,0:03:55.20,0:03:58.47,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าคุณตัดเส้นผมในแนวขวาง (ไม่ใช่ตามยาว) Dialogue: 0,0:03:58.47,0:04:00.36,Default,,0000,0000,0000,,และถามว่า... Dialogue: 0,0:04:00.36,0:04:03.26,Default,,0000,0000,0000,,มีคาร์บอนจำนวนกี่อะตอม? Dialogue: 0,0:04:03.26,0:04:07.05,Default,,0000,0000,0000,,และคุณอาจจะพอเดาได้ ก็ซัลบอกฉันแล้วว่า อะตอมมีขนาดเล็กมาก Dialogue: 0,0:04:07.05,0:04:09.15,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น น่าจะมีคาร์บอนจำนวนหลายพันอะตอมตรงนี้ Dialogue: 0,0:04:09.15,0:04:10.48,Default,,0000,0000,0000,,หรืออาจเป็นหมื่น หรือเป็นแสน Dialogue: 0,0:04:10.48,0:04:11.79,Default,,0000,0000,0000,,..ผมจะบอกว่า ไม่ใช่หรอกครับ! Dialogue: 0,0:04:11.79,0:04:14.25,Default,,0000,0000,0000,,มีเป็นล้านอะตอมต่างหาก.... Dialogue: 0,0:04:14.25,0:04:17.44,Default,,0000,0000,0000,,หรือพูดง่าย ๆ คือ คุณสามารถเอาคาร์บอน 1 ล้านอะตอมมาเรียงต่อกัน Dialogue: 0,0:04:17.44,0:04:20.93,Default,,0000,0000,0000,,จะเท่ากับความกว้างเฉลี่ยของเส้นผมมนุษย์ Dialogue: 0,0:04:20.93,0:04:22.58,Default,,0000,0000,0000,,นั่นเป็นการประมาณนะครับ Dialogue: 0,0:04:22.58,0:04:24.03,Default,,0000,0000,0000,,จริง ๆ แล้ว คงไม่ใช่ 1 ล้าน Dialogue: 0,0:04:24.03,0:04:26.60,Default,,0000,0000,0000,,แต่เป็นการเปรียบเทียบให้คุณมองเห็นภาพว่า อะตอมมีขนาดเล็กแค่ไหน Dialogue: 0,0:04:26.60,0:04:28.44,Default,,0000,0000,0000,,ลองนึกดูซิครับ... ดึงเส้นผมจากศีรษะคุณ Dialogue: 0,0:04:28.44,0:04:30.99,Default,,0000,0000,0000,,แล้วเอาอะไรสักอย่างมาเรียงต่อกัน 1 ล้านชิ้น Dialogue: 0,0:04:30.99,0:04:33.99,Default,,0000,0000,0000,,ตามแนวขวางของเส้นผม Dialogue: 0,0:04:33.99,0:04:37.04,Default,,0000,0000,0000,,ไม่ใช่แนวยาวนะครับ... ตามความกว้างของเส้นผม Dialogue: 0,0:04:37.04,0:04:39.18,Default,,0000,0000,0000,,แค่ความกว้างของผมก็มองเห็นยากอยู่แล้ว Dialogue: 0,0:04:39.18,0:04:40.72,Default,,0000,0000,0000,,แต่นี่มีคาร์บอนเรียงกันอยู่ถึง 1 ล้านอะตอม Dialogue: 0,0:04:40.72,0:04:42.98,Default,,0000,0000,0000,,แต่นี่มีคาร์บอนเรียงกันอยู่ถึง 1 ล้านอะตอม Dialogue: 0,0:04:42.98,0:04:48.09,Default,,0000,0000,0000,,ต่อไปนี้ จะเป็นสิ่งที่สุดยอดมากของอะตอม Dialogue: 0,0:04:48.09,0:04:49.03,Default,,0000,0000,0000,,..เรารู้ว่า Dialogue: 0,0:04:49.03,0:04:51.38,Default,,0000,0000,0000,,มีโครงสร้างพื้นฐานที่สุด (อะตอม) ของคาร์บอนอยู่ Dialogue: 0,0:04:51.38,0:04:53.93,Default,,0000,0000,0000,,โครงสร้างพื้นฐานที่สุด (อะตอม) ของธาตุใด ๆ Dialogue: 0,0:04:53.93,0:04:55.95,Default,,0000,0000,0000,,แต่สิ่งที่เจ๋งกว่านั้นคือ... Dialogue: 0,0:04:55.95,0:04:59.07,Default,,0000,0000,0000,,โครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้มีความสัมพันธ์กัน Dialogue: 0,0:04:59.07,0:05:02.56,Default,,0000,0000,0000,,อะตอมของคาร์บอน ยังมีอนุภาคมูลฐานเป็นส่วนประกอบ Dialogue: 0,0:05:02.56,0:05:07.47,Default,,0000,0000,0000,,อะตอมของทองคำ ก็มีอนุภาคมูลฐานเป็นส่วนประกอบ Dialogue: 0,0:05:07.47,0:05:10.44,Default,,0000,0000,0000,,และอะตอมเหล่านี้ จริง ๆ แล้วเกิดขึ้นมาจาก.... Dialogue: 0,0:05:10.44,0:05:12.76,Default,,0000,0000,0000,,การจัดเรียงตัวของอนุภาคมูลฐานเหล่านั้น Dialogue: 0,0:05:12.76,0:05:14.09,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งถ้าคุณเปลี่ยนแปลงจำนวนอนุภาคมูลฐานเหล่านี้ Dialogue: 0,0:05:14.09,0:05:15.90,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งถ้าคุณเปลี่ยนแปลงจำนวนอนุภาคมูลฐานเหล่านี้ Dialogue: 0,0:05:15.90,0:05:17.84,Default,,0000,0000,0000,,ก็จะทำให้คุณสมบัติของธาตุนั้นเปลี่ยนไป Dialogue: 0,0:05:17.84,0:05:18.89,Default,,0000,0000,0000,,การทำปฏิกิริยากับสารอื่นก็เปลี่ยนไป Dialogue: 0,0:05:18.89,0:05:22.77,Default,,0000,0000,0000,,หรืออาจจะทำให้ธาตุนั้นเปลี่ยนไปเป็นธาตุอื่น Dialogue: 0,0:05:22.77,0:05:25.14,Default,,0000,0000,0000,,...เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น Dialogue: 0,0:05:25.14,0:05:28.01,Default,,0000,0000,0000,,เราจะมาคุยกันในรายละเอียดเรื่องนี้ Dialogue: 0,0:05:28.01,0:05:31.82,Default,,0000,0000,0000,,สมมติว่า คุณมี "โปรตอน" Dialogue: 0,0:05:31.82,0:05:35.52,Default,,0000,0000,0000,,สมมติว่า คุณมี "โปรตอน" Dialogue: 0,0:05:35.52,0:05:38.00,Default,,0000,0000,0000,,-จำนวนของโปรตอนในนิวเคลียสของอะตอมหนึ่ง ๆ Dialogue: 0,0:05:38.00,0:05:40.10,Default,,0000,0000,0000,,เดี๋ยวผมจะพูดถึงนิวเคลียสทีหลังนะครับ Dialogue: 0,0:05:40.10,0:05:42.97,Default,,0000,0000,0000,,...นี่คือสิ่งที่กำหนดความเป็น "ธาตุ" ว่าธาตุนั้นเป็นธาตุอะไร Dialogue: 0,0:05:42.97,0:05:45.49,Default,,0000,0000,0000,,...นี่คือสิ่งที่กำหนดความเป็น "ธาตุ" ว่าธาตุนั้นเป็นธาตุอะไร Dialogue: 0,0:05:45.49,0:05:47.33,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าคุณดูที่ตารางธาตุ.. Dialogue: 0,0:05:47.33,0:05:50.15,Default,,0000,0000,0000,,จะเห็นว่า มีการเขียนเรียงลำดับของธาตุตาม "เลขอะตอม" Dialogue: 0,0:05:50.15,0:05:51.58,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่ง "เลขอะตอม" นี้ Dialogue: 0,0:05:51.58,0:05:54.67,Default,,0000,0000,0000,,ก็คือ จำนวนของโปรตอนในธาตุ นั่นเอง Dialogue: 0,0:05:54.67,0:05:58.67,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น ตามคำจำกัดความ.. ไฮโดรเจนมี 1 โปรตอน Dialogue: 0,0:05:58.67,0:06:02.80,Default,,0000,0000,0000,,ฮีเลียมมี 2 โปรตอน และคาร์บอนมี 6 โปรตอน Dialogue: 0,0:06:02.80,0:06:05.33,Default,,0000,0000,0000,,คุณไม่สามารถทำให้คาร์บอน มี 7 โปรตอนได้ Dialogue: 0,0:06:05.33,0:06:07.17,Default,,0000,0000,0000,,เพราะถ้ามี 7 โปรตอน จะกลายเป็นธาตุไนโตรเจน Dialogue: 0,0:06:07.17,0:06:09.23,Default,,0000,0000,0000,,ไม่ใช่คาร์บอนอีกต่อไป Dialogue: 0,0:06:09.23,0:06:10.59,Default,,0000,0000,0000,,ออกซิเจนมี 8 โปรตอน Dialogue: 0,0:06:10.59,0:06:12.67,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าคุณเพิ่มอีก 1 โปรตอนเข้าไป Dialogue: 0,0:06:12.67,0:06:14.05,Default,,0000,0000,0000,,ก็จะไม่ใช่ออกซิเจนอีกต่อไป Dialogue: 0,0:06:14.05,0:06:18.33,Default,,0000,0000,0000,,แต่จะเป็นฟลูออรีนแทน Dialogue: 0,0:06:18.33,0:06:20.07,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น จำนวนโปรตอนจึงเป็นตัวกำหนดว่าธาตุนั้นเป็นธาตุอะไร Dialogue: 0,0:06:20.07,0:06:22.97,Default,,0000,0000,0000,,เลขอะตอม จำนวนโปรตอน Dialogue: 0,0:06:22.97,0:06:25.45,Default,,0000,0000,0000,,จำนวนโปรตอน ....จำไว้ว่า Dialogue: 0,0:06:25.45,0:06:27.67,Default,,0000,0000,0000,,นั่นคือตัวเลขที่เขียนไว้ทางขวาด้านบนสุดตรงนี้ Dialogue: 0,0:06:27.67,0:06:30.12,Default,,0000,0000,0000,,สำหรับแต่ละธาตุในตารางธาตุ Dialogue: 0,0:06:30.12,0:06:31.53,Default,,0000,0000,0000,,-จำนวนโปรตอน Dialogue: 0,0:06:31.53,0:06:34.13,Default,,0000,0000,0000,,จะเท่ากับเลขอะตอม Dialogue: 0,0:06:34.13,0:06:36.85,Default,,0000,0000,0000,,จะเท่ากับเลขอะตอม Dialogue: 0,0:06:36.87,0:06:38.86,Default,,0000,0000,0000,,เลขเหล่านี้จะถูกใส่ไว้ด้านบนนี้ เพราะว่า... Dialogue: 0,0:06:38.86,0:06:42.22,Default,,0000,0000,0000,,ตัวเลขนี้บอกถึงความเป็นธาตุนั้น ๆ (ธาตุนั้นเป็นธาตุอะไร) Dialogue: 0,0:06:42.22,0:06:46.13,Default,,0000,0000,0000,,ส่วนประกอบของอะตอมอีก 2 ส่วน Dialogue: 0,0:06:46.13,0:06:47.70,Default,,0000,0000,0000,,ส่วนประกอบของอะตอมอีก 2 ส่วน Dialogue: 0,0:06:47.70,0:06:55.12,Default,,0000,0000,0000,,ก็คือ "อิเล็กตรอน" และ "นิวตรอน" Dialogue: 0,0:06:55.12,0:06:57.54,Default,,0000,0000,0000,,...คุณลองนึกถึงภาพแบบจำลอง Dialogue: 0,0:06:57.54,0:07:00.42,Default,,0000,0000,0000,,- ซึ่งแบบจำลองนี้ เดี๋ยวเราจะได้เห็นเมื่อเราเรียนเคมีในตอนต่อ ๆ ไป Dialogue: 0,0:07:00.42,0:07:02.83,Default,,0000,0000,0000,,มันจะค่อย ๆ เป็นภาพจินตนาการมากขึ้น Dialogue: 0,0:07:02.83,0:07:04.82,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งค่อนข้างยากที่จะเข้าใจ Dialogue: 0,0:07:04.82,0:07:06.55,Default,,0000,0000,0000,,แต่เราอาจคิดถึงภาพเหล่านี้ได้ดังนี้ Dialogue: 0,0:07:06.55,0:07:08.35,Default,,0000,0000,0000,,.. คุณมีโปรตอนและนิวตรอน Dialogue: 0,0:07:08.35,0:07:09.82,Default,,0000,0000,0000,,อยู่ตรงกลางของอะตอม Dialogue: 0,0:07:09.82,0:07:11.60,Default,,0000,0000,0000,,เรียกว่า "นิวเคลียส" ของอะตอม Dialogue: 0,0:07:11.60,0:07:14.87,Default,,0000,0000,0000,,ตัวอย่างเช่น คาร์บอน ซึ่งมี 6 โปรตอน Dialogue: 0,0:07:14.87,0:07:19.07,Default,,0000,0000,0000,,1, 2, 3, 4, 5 และ 6 Dialogue: 0,0:07:19.07,0:07:22.38,Default,,0000,0000,0000,,คาร์บอน 12 ซึ่งเป็นคาร์บอนรูปแบบหนึ่ง Dialogue: 0,0:07:22.38,0:07:24.20,Default,,0000,0000,0000,,จะมี 6 นิวตรอน Dialogue: 0,0:07:24.20,0:07:25.75,Default,,0000,0000,0000,,คาร์บอน อาจมีหลายรูปแบบ Dialogue: 0,0:07:25.75,0:07:28.02,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งมีจำนวนนิวตรอนแตกต่างกัน Dialogue: 0,0:07:28.02,0:07:30.11,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น จำนวนนิวตรอนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ จำนวนอิเล็กตรอนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ Dialogue: 0,0:07:30.11,0:07:31.73,Default,,0000,0000,0000,,คุณก็ยังได้ธาตุชนิดเดิม Dialogue: 0,0:07:31.73,0:07:33.27,Default,,0000,0000,0000,,แต่จำนวนโปรตอนเปลี่ยนแปลงไม่ได้ Dialogue: 0,0:07:33.27,0:07:35.90,Default,,0000,0000,0000,,เพราะถ้าจำนวนโปรตอนเปลี่ยนไป ธาตุนั้นจะเปลี่ยนเป็นธาตุอื่น Dialogue: 0,0:07:35.90,0:07:39.20,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น ผมจะวาดนิวเคลียสของ คาร์บอน 12 Dialogue: 0,0:07:39.20,0:07:43.20,Default,,0000,0000,0000,,1, 2, 3, 4, 5 และ 6 Dialogue: 0,0:07:43.20,0:07:46.49,Default,,0000,0000,0000,,ตรงนี้ เป็นนิวเคลียสของคาร์บอน-12 Dialogue: 0,0:07:46.49,0:07:48.33,Default,,0000,0000,0000,,บางครั้งจะเขียนแบบนี้ Dialogue: 0,0:07:48.33,0:07:51.13,Default,,0000,0000,0000,,หรือบางครั้ง อาจจะเขียนจำนวนโปรตอนลงไปด้วย Dialogue: 0,0:07:51.13,0:07:53.83,Default,,0000,0000,0000,,หรือบางครั้ง อาจจะเขียนจำนวนโปรตอนลงไปด้วย Dialogue: 0,0:07:53.83,0:07:56.13,Default,,0000,0000,0000,,...เหตุผลว่าทำไมเราจึงเขียน คาร์บอน-12 Dialogue: 0,0:07:56.13,0:07:58.68,Default,,0000,0000,0000,,-- จำได้ใช่มั้ยครับว่า ผมเขียนนิวตรอนลงไป 6 ตัว Dialogue: 0,0:07:58.68,0:08:00.38,Default,,0000,0000,0000,,นี่คือผลรวมของจำนวนโปรตอนและนิวตรอนที่อยู่ภายในนิวเคลียส Dialogue: 0,0:08:00.38,0:08:03.68,Default,,0000,0000,0000,,นี่คือผลรวมของจำนวนโปรตอนและนิวตรอนที่อยู่ภายในนิวเคลียส Dialogue: 0,0:08:03.68,0:08:04.74,Default,,0000,0000,0000,,นี่คือผลรวมของจำนวนโปรตอนและนิวตรอนที่อยู่ภายในนิวเคลียส Dialogue: 0,0:08:04.74,0:08:06.40,Default,,0000,0000,0000,,นี่คือผลรวมของจำนวนโปรตอนและนิวตรอนที่อยู่ภายในนิวเคลียส Dialogue: 0,0:08:06.40,0:08:07.77,Default,,0000,0000,0000,,นี่คือผลรวมของจำนวนโปรตอนและนิวตรอนที่อยู่ภายในนิวเคลียส Dialogue: 0,0:08:07.77,0:08:11.84,Default,,0000,0000,0000,,นี่คือผลรวมของจำนวนโปรตอนและนิวตรอนที่อยู่ภายในนิวเคลียส Dialogue: 0,0:08:11.84,0:08:15.24,Default,,0000,0000,0000,,ธาตุคาร์บอนนี้ ตามคำจำกัดความมีเลขอะตอมเท่ากับ 6 Dialogue: 0,0:08:15.24,0:08:16.63,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งเราจะเขียนไว้ตรงนี้ก่อน Dialogue: 0,0:08:16.63,0:08:18.60,Default,,0000,0000,0000,,เราจะได้จำได้ Dialogue: 0,0:08:18.60,0:08:21.34,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น ตรงกลางของอะตอมของคาร์บอน จะมีนิวเคลียส Dialogue: 0,0:08:21.34,0:08:24.86,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งคาร์บอน-12 จะมี 6 โปรตอนและ 6 นิวตรอน Dialogue: 0,0:08:24.86,0:08:27.50,Default,,0000,0000,0000,,คาร์บอนอีกรูปแบบหนึ่ง เช่น คาร์บอน 14 Dialogue: 0,0:08:27.50,0:08:30.91,Default,,0000,0000,0000,,ก็ยังคงมี 6 โปรตอน แต่จะมี 8 นิวตรอน Dialogue: 0,0:08:30.91,0:08:32.47,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น จำนวนนิวตรอนสามารถเปลี่ยนแปลงได้ Dialogue: 0,0:08:32.47,0:08:34.61,Default,,0000,0000,0000,,... นี่คาร์บอน 12 อยู่ตรงนี้ Dialogue: 0,0:08:34.61,0:08:36.84,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าคาร์บอน 12 มีความเป็นกลาง Dialogue: 0,0:08:36.84,0:08:40.66,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าคาร์บอน 12 มีความเป็นกลาง Dialogue: 0,0:08:40.66,0:08:43.20,Default,,0000,0000,0000,,ถ้ามันเป็นกลาง จะมี 6 อิเล็กตรอน Dialogue: 0,0:08:43.20,0:08:45.40,Default,,0000,0000,0000,,...ผมจะวาดอิเล็กตรอน 6 ตัวนะครับ Dialogue: 0,0:08:45.40,0:08:49.47,Default,,0000,0000,0000,,1, 2, 3, 4, 5, และ 6 Dialogue: 0,0:08:49.47,0:08:51.84,Default,,0000,0000,0000,,นี่เป็นวิธีหนึ่ง ที่จะคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอิเล็กตรอนและนิวเคลียส Dialogue: 0,0:08:51.84,0:08:54.63,Default,,0000,0000,0000,,นี่เป็นวิธีหนึ่ง ที่จะคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอิเล็กตรอนและนิวเคลียส Dialogue: 0,0:08:54.63,0:08:56.89,Default,,0000,0000,0000,,นี่เป็นวิธีหนึ่ง ที่จะคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอิเล็กตรอนและนิวเคลียส Dialogue: 0,0:08:56.89,0:08:58.85,Default,,0000,0000,0000,,คือ คุณลองจินตนาการว่า ... Dialogue: 0,0:08:58.85,0:09:00.84,Default,,0000,0000,0000,,อิเล็กตรอนจะวิ่งอยู่รอบ ๆ นิวเคลียส Dialogue: 0,0:09:00.84,0:09:02.96,Default,,0000,0000,0000,,บินหึ่ง ๆ อยู่รอบ ๆ นิวเคลียสนี้ Dialogue: 0,0:09:02.96,0:09:04.69,Default,,0000,0000,0000,,นี่เป็นแบบจำลองให้เห็นภาพว่า Dialogue: 0,0:09:04.69,0:09:06.70,Default,,0000,0000,0000,,อิเล็กตรอนเคลื่อนที่อยู่รอบ ๆ นิวเคลียส Dialogue: 0,0:09:06.70,0:09:08.00,Default,,0000,0000,0000,,แต่ที่จริงแล้ว อาจไม่ถูกต้องนัก Dialogue: 0,0:09:08.00,0:09:10.50,Default,,0000,0000,0000,,เพราะอิเล็กตรอนจะไม่ได้วิ่งรอบ ๆ เหมือนกับดาวเคราะห์โคจรรอบดวงอาทิตย์ Dialogue: 0,0:09:10.50,0:09:11.66,Default,,0000,0000,0000,,เพราะอิเล็กตรอนจะไม่ได้วิ่งรอบ ๆ เหมือนกับดาวเคราะห์โคจรรอบดวงอาทิตย์ Dialogue: 0,0:09:11.66,0:09:13.75,Default,,0000,0000,0000,,แต่อย่างน้อยก็ให้นึกภาพตามนี้ไปก่อน Dialogue: 0,0:09:13.75,0:09:16.27,Default,,0000,0000,0000,,หรืออาจจินตนาการว่าอิเล็กตรอน "กระโดด" อยู่รอบ ๆ นิวเคลียส Dialogue: 0,0:09:16.27,0:09:18.69,Default,,0000,0000,0000,,หรือบินหึ่ง ๆ อยู่รอบ ๆ นิวเคลียส Dialogue: 0,0:09:18.69,0:09:19.96,Default,,0000,0000,0000,,แต่ถ้าคิดแบบนั้นอาจจะดูประหลาดสำหรับการเรียนเคมีระดับนี้ Dialogue: 0,0:09:19.96,0:09:22.07,Default,,0000,0000,0000,,แต่ถ้าคิดแบบนั้นอาจจะดูประหลาดสำหรับการเรียนเคมีระดับนี้ Dialogue: 0,0:09:22.07,0:09:23.54,Default,,0000,0000,0000,,เพราะเรายังไม่ได้เรียนเกี่ยวกับควอนตัมฟิสิกส์ Dialogue: 0,0:09:23.54,0:09:26.41,Default,,0000,0000,0000,,เพื่อให้เข้าใจว่าจริง ๆ แล้วอิเล็กตรอนทำอะไรอยู่ Dialogue: 0,0:09:26.41,0:09:29.19,Default,,0000,0000,0000,,เพราะฉะนั้น แบบจำลองแบบแรกที่ควรจำไว้ก่อนคือ Dialogue: 0,0:09:29.19,0:09:32.40,Default,,0000,0000,0000,,ตรงกลางของอะตอมของคาร์บอน 12 Dialogue: 0,0:09:32.40,0:09:34.07,Default,,0000,0000,0000,,จะมีนิวเคลียส Dialogue: 0,0:09:34.07,0:09:36.64,Default,,0000,0000,0000,,จะมีนิวเคลียส Dialogue: 0,0:09:36.64,0:09:40.73,Default,,0000,0000,0000,,และมีอิเล็กตรอนกระโดดไปมารอบ ๆ นิวเคลียสนี้ Dialogue: 0,0:09:40.73,0:09:43.01,Default,,0000,0000,0000,,... ซึ่งเหตุผลที่ว่าทำไมอิเล็กตรอนเหล่านี้ Dialogue: 0,0:09:43.01,0:09:45.14,Default,,0000,0000,0000,,ไม่หลุดกระเด็นออกไปจากนิวเคลียส Dialogue: 0,0:09:45.14,0:09:47.20,Default,,0000,0000,0000,,แต่กลับติดอยู่กับนิวเคลียสแบบนี้ Dialogue: 0,0:09:47.20,0:09:49.31,Default,,0000,0000,0000,,กลายเป็นส่วนหนึ่งของอะตอม Dialogue: 0,0:09:49.31,0:09:54.58,Default,,0000,0000,0000,,ก็เพราะว่า.. โปรตอนมีประจุเป็นบวก Dialogue: 0,0:09:54.58,0:09:57.92,Default,,0000,0000,0000,,และอิเล็กตรอนมีประจุลบ Dialogue: 0,0:09:57.92,0:10:02.48,Default,,0000,0000,0000,,นี่เป็นคุณสมบัติอย่างหนึ่งของอนุภาคพื้นฐานเหล่านี้ Dialogue: 0,0:10:02.48,0:10:03.62,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าคุณเริ่มคิดว่า.... Dialogue: 0,0:10:03.62,0:10:05.47,Default,,0000,0000,0000,,ประจุคืออะไร Dialogue: 0,0:10:05.47,0:10:06.87,Default,,0000,0000,0000,,ก็จะเริ่มยากขึ้น Dialogue: 0,0:10:06.87,0:10:08.40,Default,,0000,0000,0000,,แต่สิ่งหนึ่งที่เรารู้ Dialogue: 0,0:10:08.40,0:10:10.70,Default,,0000,0000,0000,,เวลาเราคุยกันเกี่ยวกับแรงแม่เหล็กไฟฟ้า Dialogue: 0,0:10:10.70,0:10:13.15,Default,,0000,0000,0000,,ก็คือ การที่ประจุที่ต่างกันดึงดูดกันเข้าหากัน Dialogue: 0,0:10:13.15,0:10:14.96,Default,,0000,0000,0000,,นั่นเป็นวิธีคิดที่ดีที่สุดเกี่ยวกับเรื่องนี้นะครับ Dialogue: 0,0:10:14.96,0:10:16.55,Default,,0000,0000,0000,,โปรตอน กับอิเล็กตรอน Dialogue: 0,0:10:16.55,0:10:18.13,Default,,0000,0000,0000,,เนื่องจากมีประจุแตกต่างกัน Dialogue: 0,0:10:18.13,0:10:20.13,Default,,0000,0000,0000,,จึงดึงดูดเข้าหากัน Dialogue: 0,0:10:20.13,0:10:21.46,Default,,0000,0000,0000,,แต่นิวตรอนเป็นกลาง Dialogue: 0,0:10:21.46,0:10:25.09,Default,,0000,0000,0000,,จึงแค่นั่งอยู่เฉย ๆ ในนิวเคลียส Dialogue: 0,0:10:25.09,0:10:28.58,Default,,0000,0000,0000,,แต่นิวตรอนก็จะมีผลต่อคุณสมบัติของธาตุได้ในบางกรณี Dialogue: 0,0:10:28.58,0:10:33.15,Default,,0000,0000,0000,,สำหรับอะตอบของธาตุบางชนิด Dialogue: 0,0:10:33.15,0:10:35.00,Default,,0000,0000,0000,,ส่วนเหตุผลที่ว่า.. ทำไมอิเล็กตรอนจึงไม่บินออกไปอย่างอิสระ Dialogue: 0,0:10:35.00,0:10:36.82,Default,,0000,0000,0000,,ส่วนเหตุผลที่ว่า.. ทำไมอิเล็กตรอนจึงไม่บินออกไปอย่างอิสระ Dialogue: 0,0:10:36.82,0:10:38.60,Default,,0000,0000,0000,,ก็เพราะว่ามันถูกดึงดูดเข้าหานิวเคลียส Dialogue: 0,0:10:38.60,0:10:42.33,Default,,0000,0000,0000,,ก็เพราะว่ามันถูกดึงดูดเข้าหานิวเคลียส Dialogue: 0,0:10:42.33,0:10:45.07,Default,,0000,0000,0000,,ด้วยแรงดึงดูดที่มากอย่างไม่น่าเชื่อ Dialogue: 0,0:10:45.07,0:10:47.14,Default,,0000,0000,0000,,- มันยากจริง ๆ นะครับ Dialogue: 0,0:10:47.14,0:10:48.45,Default,,0000,0000,0000,,ที่จะอธิบายให้เห็นภาพที่เกี่ยวกับฟิสิกส์ในเรื่องนี้ Dialogue: 0,0:10:48.45,0:10:51.55,Default,,0000,0000,0000,,ที่จะอธิบายให้เห็นภาพที่เกี่ยวกับฟิสิกส์ในเรื่องนี้ Dialogue: 0,0:10:51.55,0:10:52.57,Default,,0000,0000,0000,,ถ้าเราจะมาคุยกันว่า.. Dialogue: 0,0:10:52.57,0:10:54.16,Default,,0000,0000,0000,,อิเล็กตรอนนั้น จริง ๆ แล้วทำอะไรอยู่ Dialogue: 0,0:10:54.16,0:10:55.95,Default,,0000,0000,0000,,-- ผมว่าพอแค่นี้ก่อน Dialogue: 0,0:10:55.95,0:10:56.84,Default,,0000,0000,0000,,-- ผมว่าพอแค่นี้ก่อน Dialogue: 0,0:10:56.84,0:10:57.92,Default,,0000,0000,0000,,แค่ว่า อิเล็กตรอนกระโดดไปรอบ ๆ ..ก็พอ Dialogue: 0,0:10:57.92,0:11:00.73,Default,,0000,0000,0000,,ไม่ใช่เข้าไปอยู่ในนิวเคลียสนะครับ Dialogue: 0,0:11:00.73,0:11:02.87,Default,,0000,0000,0000,,ไม่ใช่เข้าไปอยู่ในนิวเคลียสนะครับ Dialogue: 0,0:11:02.87,0:11:08.12,Default,,0000,0000,0000,,มาดูต่อกัน... ผมได้พูดถึงคาร์บอน 12 ไปแล้วว่า Dialogue: 0,0:11:08.12,0:11:09.77,Default,,0000,0000,0000,,จะถูกกำหนดด้วยจำนวนโปรตอน Dialogue: 0,0:11:09.77,0:11:12.40,Default,,0000,0000,0000,,ออกซิเจนจะถูกกำหนดโดยจำนวนโปรตอน 8 ตัว Dialogue: 0,0:11:12.40,0:11:16.47,Default,,0000,0000,0000,,แต่ย้ำอีกครั้งว่า.. อิเล็กตรอนสามารถทำปฏิกิริยากับอิเล็กตรอนอื่น ๆ ได้ Dialogue: 0,0:11:16.47,0:11:18.65,Default,,0000,0000,0000,,และอิเล็กตรอนเหล่านี้ก็อาจถูกอะตอมอื่นดึงไปได้ Dialogue: 0,0:11:18.65,0:11:21.02,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งความเข้าใจเรื่องอิเล็กตรอนนี้ ที่จริงแล้ว Dialogue: 0,0:11:21.02,0:11:23.27,Default,,0000,0000,0000,,ทำให้เราสามารถเข้าใจเกี่ยวกับเคมีอย่างมาก Dialogue: 0,0:11:23.27,0:11:25.100,Default,,0000,0000,0000,,มันขึ้นอยู่กับว่าอะตอมนั้น ๆ มีกี่อิเล็กตรอน Dialogue: 0,0:11:25.100,0:11:27.60,Default,,0000,0000,0000,,หรือธาตุนั้น ๆ มีกี่อิเล็กตรอน Dialogue: 0,0:11:27.60,0:11:29.47,Default,,0000,0000,0000,,และอิเล็กตรอนเหล่านั้นมีการจัดเรียงตัวอย่างไร Dialogue: 0,0:11:29.47,0:11:33.87,Default,,0000,0000,0000,,รวมทั้งอิเล็กตรอนของธาตุอื่น ๆ ด้วยว่าเรียงตัวกันอย่างไร Dialogue: 0,0:11:33.87,0:11:36.02,Default,,0000,0000,0000,,หรือแม้แต่อะตอมของธาตุเดียวกัน Dialogue: 0,0:11:36.02,0:11:41.27,Default,,0000,0000,0000,,เราลองมาเริ่มทายกันว่า อะตอมของธาตุหนึ่ง ๆ Dialogue: 0,0:11:41.27,0:11:43.33,Default,,0000,0000,0000,,จะทำปฏิกิริยากับอะตอมของอีกธาตุหนึ่งได้อย่างไร Dialogue: 0,0:11:43.33,0:11:46.73,Default,,0000,0000,0000,,หรืออะตอมของธาตุหนึ่ง ๆ จะทำปฏิกิริยา.. Dialogue: 0,0:11:46.73,0:11:49.70,Default,,0000,0000,0000,,หรือสร้างพันธะ หรือถูกดึงดูดเข้าหากัน Dialogue: 0,0:11:49.70,0:11:52.20,Default,,0000,0000,0000,,หรือผลักออกจากอะตอมของธาตุอื่นอย่างไร Dialogue: 0,0:11:52.20,0:11:53.42,Default,,0000,0000,0000,,ตัวอย่างเช่น.... Dialogue: 0,0:11:53.42,0:11:56.30,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งเราจะได้เรียนต่อไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ในตอนหน้า Dialogue: 0,0:11:56.30,0:12:00.14,Default,,0000,0000,0000,,..เป็นไปได้หรือไม่ว่าอะตอมหนึ่ง ๆ Dialogue: 0,0:12:00.14,0:12:02.72,Default,,0000,0000,0000,,จะมาดึงเอาอิเล็กตรอนจากคาร์บอนไป Dialogue: 0,0:12:02.73,0:12:05.55,Default,,0000,0000,0000,,ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม Dialogue: 0,0:12:05.55,0:12:10.34,Default,,0000,0000,0000,,.อะตอมที่เป็นกลางของธาตุบางชนิด Dialogue: 0,0:12:10.34,0:12:13.72,Default,,0000,0000,0000,,จะสามารถจับกับอิเล็กตรอนได้ดีกว่าธาตุอื่น Dialogue: 0,0:12:13.72,0:12:15.22,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งอะตอมเหล่านี้ Dialogue: 0,0:12:15.22,0:12:17.16,Default,,0000,0000,0000,,อาจดึงเอาอิเล็กตรอนจากคาร์บอนได้ Dialogue: 0,0:12:17.16,0:12:19.23,Default,,0000,0000,0000,,ทำให้คาร์บอนมีอิเล็กตรอนน้อยกว่าโปรตอน Dialogue: 0,0:12:19.23,0:12:21.83,Default,,0000,0000,0000,,ทำให้คาร์บอนมีอิเล็กตรอนน้อยกว่าโปรตอน Dialogue: 0,0:12:21.83,0:12:25.14,Default,,0000,0000,0000,,ดังนั้น เราจะมี 5 อิเล็กตรอนและ 6 โปรตอน Dialogue: 0,0:12:25.14,0:12:27.80,Default,,0000,0000,0000,,และจะมีประจุรวมเป็นบวก Dialogue: 0,0:12:27.80,0:12:30.04,Default,,0000,0000,0000,,สำหรับคาร์บอน 12 Dialogue: 0,0:12:30.04,0:12:34.27,Default,,0000,0000,0000,,ผมมี 6 โปรตอน และ 6 อิเล็กตรอน ประจุจะหักล้างกันหมด Dialogue: 0,0:12:34.27,0:12:36.55,Default,,0000,0000,0000,,ถ้ามีการสูญเสียอิเล็กตรอน 1 ตัว จะเหลือเพียง 5 ตัว Dialogue: 0,0:12:36.55,0:12:38.93,Default,,0000,0000,0000,,ทำให้ได้ประจุบวก Dialogue: 0,0:12:38.93,0:12:40.78,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งเราจะพูดอย่างละเอียดในตอนหน้า Dialogue: 0,0:12:40.78,0:12:42.87,Default,,0000,0000,0000,,เกี่ยวกับเรื่องนี้และเรื่องอื่น ๆ ตามหัวข้อ Dialogue: 0,0:12:42.87,0:12:44.30,Default,,0000,0000,0000,,ผมหวังอย่างยิ่งว่า คุณจะชอบนะครับ Dialogue: 0,0:12:44.30,0:12:46.13,Default,,0000,0000,0000,,อย่างน้อย การที่ได้เริ่มต้นครั้งนี้แล้วก็ถือว่าเยี่ยมมากครับ Dialogue: 0,0:12:46.13,0:12:51.80,Default,,0000,0000,0000,,เราก็ได้เข้าใจถึงโครงสร้างมูลฐาน Dialogue: 0,0:12:51.80,0:12:53.12,Default,,0000,0000,0000,,ที่เรียกว่าอะตอม.. แล้วนะครับ Dialogue: 0,0:12:53.12,0:12:54.92,Default,,0000,0000,0000,,และที่ดีกว่านั้น Dialogue: 0,0:12:54.92,0:12:56.76,Default,,0000,0000,0000,,และเรายังรู้ว่าอะตอมนี้ Dialogue: 0,0:12:56.76,0:12:58.67,Default,,0000,0000,0000,,ยังประกอบด้วยอนุภาคมูลฐาน Dialogue: 0,0:12:58.67,0:13:00.87,Default,,0000,0000,0000,,ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ Dialogue: 0,0:13:00.87,0:13:03.13,Default,,0000,0000,0000,,ทำให้คุณสมบัติของอะตอมเปลี่ยนไป Dialogue: 0,0:13:03.13,0:13:06.04,Default,,0000,0000,0000,,หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนอะตอมของธาตุหนึ่ง Dialogue: 0,0:13:06.04,0:13:09.04,Default,,0000,0000,0000,,ไปเป็นอะตอมของอีกธาตุหนึ่ง ...