WEBVTT 00:00:00.000 --> 00:00:03.000 วันนี้ผมจะพูดเรื่องการออมมากขึ้นครับ 00:00:03.000 --> 00:00:06.000 แต่ไม่ใช่วันนี้ ไม่ใช่พรุ่งนี้ 00:00:06.000 --> 00:00:08.000 ผมจะพูดถึง "ออมเพิ่มในวันพรุ่ง" 00:00:08.000 --> 00:00:10.000 มันเป็นโครงการที่ ริชาร์ด เธเลอร์ 00:00:10.000 --> 00:00:12.000 จากมหาวิทยาลัยชิคาโกกับผม 00:00:12.000 --> 00:00:15.000 คิดค้นเมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้ว 00:00:15.000 --> 00:00:17.000 ในแง่หนึ่งโครงการนี้ 00:00:17.000 --> 00:00:19.000 เป็นตัวอย่างของการเงินเชิงพฤติกรรม 00:00:19.000 --> 00:00:21.000 สิ่งที่สำคัญ -- 00:00:21.000 --> 00:00:24.000 เราจะนำการเงินพฤติกรรม ไปใช้ในชีวิตจริงได้อย่างไร 00:00:24.000 --> 00:00:27.000 ทีนี้คุณอาจสงสัยว่า การเงินพฤติกรรมคืออะไร? 00:00:27.000 --> 00:00:30.000 เราลองมาคิดกันก่อนนะครับว่า เราจัดการเงินกันอย่างไร 00:00:30.000 --> 00:00:33.000 ลองเริ่มจากสินเชื่อบ้าน 00:00:33.000 --> 00:00:35.000 หัวข้อร่วมสมัยในกระแส 00:00:35.000 --> 00:00:37.000 อย่างน้อยก็ในสหรัฐอเมริกา 00:00:37.000 --> 00:00:39.000 คนเยอะมากเลยซื้อ 00:00:39.000 --> 00:00:42.000 บ้านที่ใหญ่ที่สุดที่พวกเขาสามารถซื้อได้ 00:00:42.000 --> 00:00:45.000 ที่จริงก็ใหญ่กว่านั้นนิดหน่อยด้วยซ้ำ 00:00:45.000 --> 00:00:48.000 เสร็จแล้วก็ถูกยึดบ้าน 00:00:48.000 --> 00:00:50.000 เสร็จแล้วก็ประนามธนาคารว่า 00:00:50.000 --> 00:00:53.000 เป็นพวกสารเลวที่ปล่อยให้กู้ตั้งแต่แรก NOTE Paragraph 00:00:53.000 --> 00:00:55.000 เราลองนึกสิว่า 00:00:55.000 --> 00:00:57.000 เราจัดการความเสี่ยงอย่างไร -- 00:00:57.000 --> 00:00:59.000 ยกตัวอย่างเช่น การลงทุนในตลาดหุ้น 00:00:59.000 --> 00:01:02.000 สองปีก่อน สามปีก่อน หรือสี่ปีก่อน 00:01:02.000 --> 00:01:04.000 ตลาดหุ้นไปได้สวย 00:01:04.000 --> 00:01:07.000 แน่นอน เราเป็นพวกชอบความเสี่ยง 00:01:07.000 --> 00:01:09.000 แล้วตลาดก็ชักกระตุก 00:01:09.000 --> 00:01:11.000 แล้วเราบอกว่า "โอ้โห 00:01:11.000 --> 00:01:14.000 ตอนขาดทุนนี่มันรูู้สึก 00:01:14.000 --> 00:01:17.000 แตกต่างมากเลย 00:01:17.000 --> 00:01:20.000 กับสิ่งที่เราคิดว่าจะเกิด 00:01:20.000 --> 00:01:22.000 ตอนที่ตลาดกำลังขึ้น" 00:01:22.000 --> 00:01:25.000 ดังนั้น เราอาจกำลังรับมือกับความเสี่ยง 00:01:25.000 --> 00:01:27.000 ได้ไม่ค่อยดีนัก NOTE Paragraph 00:01:27.000 --> 00:01:30.000 พวกคุณกี่คนที่นี่มีไอโฟนครับ? 00:01:30.000 --> 00:01:33.000 มีไหมครับ? เยี่ยมเลย 00:01:33.000 --> 00:01:36.000 ผมพนันได้ว่าพวกคุณหลายคน 00:01:36.000 --> 00:01:39.000 ทำประกันไอโฟนของคุณ -- 00:01:39.000 --> 00:01:42.000 คุณซื้อประกันโดยนัย ถ้าคุณจ่ายค่าขยายอายุประกันสินค้า 00:01:42.000 --> 00:01:44.000 ถ้าคุณทำไอโฟนหายล่ะ? 00:01:44.000 --> 00:01:46.000 หรือถ้าทำแบบนี้? 00:01:46.000 --> 00:01:48.000 มีใครในที่นี้มีลูกไหมครับ? 00:01:48.000 --> 00:01:50.000 มีไหมครับ? 00:01:50.000 --> 00:01:52.000 ยกมือค้างไว้ก่อนนะ 00:01:52.000 --> 00:01:55.000 มีใครซื้อประกันชีวิตบ้างครับ 00:01:55.000 --> 00:01:57.000 ผมเห็นหลายคนลดมือลงแล้ว 00:01:57.000 --> 00:01:59.000 ผมจะพยากรณ์ว่า 00:01:59.000 --> 00:02:01.000 ถ้าพวกคุณเป็นตัวแทนของประชากรเฉลี่ย 00:02:01.000 --> 00:02:03.000 คนที่ซื้อประกันไอโฟนจะมีมากกว่า 00:02:03.000 --> 00:02:06.000 คนที่ซื้อประกันชีวิตให้ตัวเอง 00:02:06.000 --> 00:02:08.000 ต่อให้มีลูกแล้วก็ตาม 00:02:08.000 --> 00:02:11.000 เราตัดสินใจเรื่องประกันไม่เก่งเลย NOTE Paragraph 00:02:11.000 --> 00:02:15.000 ครัวเรือนอเมริกันโดยเฉลี่ย 00:02:15.000 --> 00:02:18.000 ใช้เงิน 1,000 เหรียญสหรัฐต่อปี 00:02:18.000 --> 00:02:20.000 ซื้อล็อตเตอรี่ 00:02:20.000 --> 00:02:23.000 ผมรู้ว่าตัวเลขนี้ฟังดูบ้ามาก 00:02:23.000 --> 00:02:26.000 มีใครในห้องนี้ใช้เงินพันเหรียญทุกปี ซื้อล็อตเตอรี่ครับ? 00:02:26.000 --> 00:02:28.000 ไม่มีเลย 00:02:28.000 --> 00:02:31.000 นั่นแปลว่าคนที่ไม่ได้อยู่ในห้องนี้ 00:02:31.000 --> 00:02:33.000 ต้องใช้เงินมากกว่าหนึ่งพันเหรียญแน่ๆ 00:02:33.000 --> 00:02:36.000 ค่าเฉลี่ยถึงได้ออกมาพันเหรียญ 00:02:36.000 --> 00:02:38.000 ผู้มีรายได้น้อย 00:02:38.000 --> 00:02:42.000 ใช้เงินซื้อล็อตเตอรี่มากกว่าพันเหรียญ 00:02:42.000 --> 00:02:44.000 แล้วมันแปลว่าอะไรครับ? 00:02:44.000 --> 00:02:47.000 เราจัดการเงินได้ไม่เก่งเลย NOTE Paragraph 00:02:47.000 --> 00:02:50.000 การเงินพฤติกรรม ที่จริงก็คือส่วนผสม 00:02:50.000 --> 00:02:52.000 ระหว่างจิตวิทยากับเศรษฐศาสตร์ 00:02:52.000 --> 00:02:54.000 เพื่อพยายามเข้าใจ 00:02:54.000 --> 00:02:56.000 ความผิดพลาดเรื่องเงินที่เราทำๆ กัน 00:02:56.000 --> 00:02:58.000 เอาล่ะ ผมสามารถยืนอยู่ตรงนี้ 00:02:58.000 --> 00:03:02.000 ได้อีก 12 นาทีกับ 53 วินาที 00:03:02.000 --> 00:03:04.000 เพื่อเล่าเรื่องตลกของวิธีต่างๆ ที่ 00:03:04.000 --> 00:03:06.000 เราใช้จัดการเงิน 00:03:06.000 --> 00:03:09.000 แล้วพอเล่าจบพวกคุณจะถามว่า "เราจะช่วยคนได้ยังไง?" 00:03:09.000 --> 00:03:12.000 นั่นคือประเด็นที่ผมอยากเน้นในวันนี้ 00:03:12.000 --> 00:03:14.000 เราจะเข้าใจ 00:03:14.000 --> 00:03:17.000 เกี่ยวกับความผิดพลาดเรื่องเงินที่ทำๆ กัน 00:03:17.000 --> 00:03:20.000 แล้วเปลี่ยนอุปสรรคเชิงพฤติกรรมเหล่านั้น 00:03:20.000 --> 00:03:22.000 ไปเป็นวิธีแก้ไขเชิงพฤติกรรมได้อย่างไร? 00:03:22.000 --> 00:03:24.000 วันนี้ผมจะเล่าให้ฟัง 00:03:24.000 --> 00:03:26.000 เรื่องโครงการออมเพิ่มในวันพรุ่ง NOTE Paragraph 00:03:26.000 --> 00:03:28.000 ผมอยากพูดถึงประเด็น 00:03:28.000 --> 00:03:30.000 การออมเงิน 00:03:30.000 --> 00:03:32.000 บนจอคือภาพ 00:03:32.000 --> 00:03:34.000 กลุ่มตัวอย่างประชากรเฉลี่ย 00:03:34.000 --> 00:03:36.000 ของคนอเมริกัน 100 คน 00:03:36.000 --> 00:03:39.000 เราจะมาดูพฤติกรรมการออมของพวกเขา 00:03:39.000 --> 00:03:41.000 สิ่งแรกที่เราสังเกตคือ 00:03:41.000 --> 00:03:43.000 คนครึ่งหนึ่ง 00:03:43.000 --> 00:03:45.000 ไม่มีแม้แต่ 00:03:45.000 --> 00:03:47.000 แผนเงินสำรองเลี้ยงชีพ 00:03:47.000 --> 00:03:50.000 ยากมากที่พวกเขาจะออม 00:03:50.000 --> 00:03:53.000 พวกเขาไม่สามารถมีเงินเหลือจากค่าจ้าง 00:03:53.000 --> 00:03:55.000 มาใส่บัญชีสำรองเลี้ยงชีพได้ 00:03:55.000 --> 00:03:57.000 ก่อนที่พวกเขามองเห็น 00:03:57.000 --> 00:03:59.000 ก่อนจะแตะเงินก้อนนี้ได้ 00:03:59.000 --> 00:04:02.000 แล้วคนอีกครึ่งหนึ่งที่เหลือล่ะ? 00:04:02.000 --> 00:04:05.000 บางคนเลือกไม่ออม 00:04:05.000 --> 00:04:07.000 คือแค่ขี้เกียจ 00:04:07.000 --> 00:04:10.000 ไม่เคยเข้าเว็บซับซ้อน 00:04:10.000 --> 00:04:13.000 คลิก 17 ครั้งเพื่อเปิดบัญชีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 00:04:13.000 --> 00:04:15.000 เสร็จแล้วก็จะต้องตัดสินใจว่าจะลงทุนยังไง 00:04:15.000 --> 00:04:17.000 จากตัวเลือก 52 ตัว 00:04:17.000 --> 00:04:21.000 ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยรู้จัก "กองทุนตลาดเงิน" มาก่อน 00:04:21.000 --> 00:04:23.000 ข้อมูลประดังจนเลือกไม่ถูก ก็เลยไม่สมัคร 00:04:23.000 --> 00:04:28.000 มีกี่คนกันที่มีบัญชีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ? 00:04:28.000 --> 00:04:31.000 หนึ่งในสามของชาวอเมริกันทั้งหมด 00:04:31.000 --> 00:04:33.000 สองในสามตอนนี้ไม่ได้ออม NOTE Paragraph 00:04:33.000 --> 00:04:35.000 แล้วพวกเขาออมเงินกันพอหรือเปล่า? 00:04:35.000 --> 00:04:37.000 ลองไม่นับคนที่ 00:04:37.000 --> 00:04:39.000 บอกว่าพวกเขาออมน้อยเกินไป 00:04:39.000 --> 00:04:41.000 มีเพียงหนึ่งในสิบคน 00:04:41.000 --> 00:04:44.000 ที่ออมพอ 00:04:44.000 --> 00:04:46.000 เก้าในสิบคน 00:04:46.000 --> 00:04:49.000 ออมผ่านบัญชีสำรองเลี้ยงชีพไม่ได้ 00:04:49.000 --> 00:04:52.000 ตัดสินใจไม่ออม หรือไม่ตัดสินใจ 00:04:52.000 --> 00:04:55.000 หรือไม่ก็ออมในบัญชี แต่น้อยเกินไป 00:04:55.000 --> 00:04:57.000 ผมคิดว่าเรามีปัญหา 00:04:57.000 --> 00:04:59.000 กับคนที่ออมไว้มาก 00:04:59.000 --> 00:05:01.000 ลองมาดูเรื่องนี้กัน 00:05:01.000 --> 00:05:03.000 เรามีคนหนึ่งคน -- 00:05:03.000 --> 00:05:06.000 อืม ที่จริงเราต้องหั่นครึ่งเขา 00:05:06.000 --> 00:05:09.000 เพราะมันน้อยกว่าหนึ่งเปอร์เซ็นต์ 00:05:09.000 --> 00:05:12.000 ชาวอเมริกันประมาณครึ่งเปอร์เซ็นต์ 00:05:12.000 --> 00:05:17.000 รู้สึกว่าพวกเขาออมเงินไว้อย่างเยอะ NOTE Paragraph 00:05:17.000 --> 00:05:19.000 เราจะทำอะไรกับเรื่องนี้ดี? 00:05:19.000 --> 00:05:21.000 นี่คือประเด็นที่ผมอยากพูดถึง 00:05:21.000 --> 00:05:23.000 เราต้องเข้าใจว่า 00:05:23.000 --> 00:05:25.000 ทำไมคนถึงไม่ออม 00:05:25.000 --> 00:05:27.000 แล้วเราถึงจะมีหวังว่าสามารถ 00:05:27.000 --> 00:05:29.000 เปลี่ยนอุปสรรคเชิงพฤติกรรมนี้ 00:05:29.000 --> 00:05:31.000 ให้เป็นวิธีแก้เชิงพฤติกรรมได้ 00:05:31.000 --> 00:05:34.000 แล้วดูว่ามันมีพลังแค่ไหน 00:05:34.000 --> 00:05:36.000 ฉะนั้นผมขอเปลี่ยนเรื่องแป้บนึง 00:05:36.000 --> 00:05:38.000 เราจะมาระบุตัวปัญหา 00:05:38.000 --> 00:05:41.000 อุปสรรค, อุปสรรคเชิงพฤติกรรม 00:05:41.000 --> 00:05:43.000 ที่ขัดขวางคนไม่ให้ออม 00:05:43.000 --> 00:05:47.000 ผมจะเปลี่ยนเรื่อง ไปพูดเรื่องกล้วยกับช็อกโกแลตครับ NOTE Paragraph 00:05:47.000 --> 00:05:50.000 สมมุติว่าสัปดาห์หน้าเราจะมีงานเท็ดเจ๋งๆ อีกงาน 00:05:50.000 --> 00:05:52.000 แล้วตอนพัก 00:05:52.000 --> 00:05:54.000 ก็มีขนมฟรีให้กิน 00:05:54.000 --> 00:05:56.000 คุณเลือกได้ระหว่างกล้วยกับช็อกโกแลต 00:05:56.000 --> 00:05:59.000 พวกคุณกี่คนครับคิดว่าจะเลือกกินกล้วย 00:05:59.000 --> 00:06:01.000 ระหว่างพักเบรคงานเท็ดสมมุติ สัปดาห์หน้า? 00:06:01.000 --> 00:06:03.000 ใครจะกินกล้วยครับ? 00:06:03.000 --> 00:06:05.000 เยี่ยมเลย 00:06:05.000 --> 00:06:07.000 ผมพยากรณ์อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ 00:06:07.000 --> 00:06:10.000 ว่าพวกคุณ 74 เปอร์เซ็นต์จะกินกล้วย 00:06:10.000 --> 00:06:14.000 อย่างน้อยงานวิจัยที่ยอดมากชิ้นหนึ่ง ก็พยากรณ์อย่างนี้ 00:06:15.000 --> 00:06:18.000 เสร็จแล้วก็นับวัน 00:06:18.000 --> 00:06:22.000 ตามไปดูว่าคนกินอะไรจริงๆ 00:06:23.000 --> 00:06:26.000 คนที่จินตนาการว่าตัวเอง 00:06:26.000 --> 00:06:28.000 จะกินกล้วย 00:06:28.000 --> 00:06:30.000 ลงเอยด้วยการกินช็อกโกแลต 00:06:30.000 --> 00:06:32.000 หนึ่งสัปดาห์ให้หลัง NOTE Paragraph 00:06:32.000 --> 00:06:34.000 การควบคุมตัวเอง 00:06:34.000 --> 00:06:37.000 ไม่ใช่ปัญหาในอนาคต 00:06:37.000 --> 00:06:39.000 มันเป็นแค่ปัญหา ณ ตอนนี้ 00:06:39.000 --> 00:06:43.000 เมื่อมีช็อกโกแลตอยู่ต่อหน้าเรา 00:06:43.000 --> 00:06:46.000 เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับเวลาและการออมหรือครับ 00:06:46.000 --> 00:06:49.000 นี่คือเรื่องของการอดใจรอไม่ได้? 00:06:49.000 --> 00:06:53.000 ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์บางคนเรียกว่า อคติชอบปัจจุบัน (present bias) 00:06:53.000 --> 00:06:55.000 เราคิดถึงเรื่องการออม เรารู้ดีว่าเราควรจะออมเงิน 00:06:55.000 --> 00:06:58.000 เรารู้ว่าเราจะออมปีหน้า แต่วันนี้ไปใช้เงินดีกว่า 00:06:58.000 --> 00:07:00.000 เดี๋ยวก็คริสต์มาสแล้ว 00:07:00.000 --> 00:07:03.000 ไปซื้อของขวัญแจกทุกคนที่เรารู้จักดีกว่า 00:07:03.000 --> 00:07:07.000 ฉะนั้นเจ้าอคติชอบปัจจุบันนี้ 00:07:07.000 --> 00:07:09.000 ทำให้เราคิดถึงการออม 00:07:09.000 --> 00:07:11.000 แต่ลงท้ายกลับใช้เงินแทน NOTE Paragraph 00:07:11.000 --> 00:07:13.000 ตอนนี้ผมอยากพูดถึง 00:07:13.000 --> 00:07:15.000 อุปสรรคเชิงพฤติกรรมอีกเรื่องที่กีดขวางการออม 00:07:15.000 --> 00:07:17.000 เรื่องนี้เกี่ยวกับแรงเฉื่อย 00:07:17.000 --> 00:07:19.000 แต่ตรงนี้ขอนอกเรื่องอีกนิดนะครับ 00:07:19.000 --> 00:07:22.000 มาดูเรื่องการบริจาคอวัยวะกัน 00:07:22.000 --> 00:07:25.000 งานวิจัยชิ้นเอก ที่เปรียบเทียบระหว่างประเทศต่างๆ 00:07:25.000 --> 00:07:28.000 เราจะดูสองประเทศที่คล้ายกัน 00:07:28.000 --> 00:07:31.000 เยอรมนี กับ ออสเตรีย 00:07:31.000 --> 00:07:33.000 ในเยอรมนี 00:07:33.000 --> 00:07:35.000 ถ้าคุณอยากบริจาคอวัยวะ -- 00:07:35.000 --> 00:07:37.000 ถ้าพระเจ้าช่วยให้คุณไม่ประสบ 00:07:37.000 --> 00:07:39.000 อุบัติเหตุร้ายแรง -- 00:07:39.000 --> 00:07:42.000 เวลาคุณขอใบขับขี่หรือบัตรประชาชน 00:07:42.000 --> 00:07:44.000 คุณติ๊กช่องที่ระบุว่า 00:07:44.000 --> 00:07:46.000 "ข้าพเจ้าประสงค์จะบริจาคอวัยวะ" 00:07:46.000 --> 00:07:48.000 ไม่ค่อยมีใครชอบติ๊กหรอก 00:07:48.000 --> 00:07:50.000 มันต้องใช้ความพยายาม คุณต้องหยุดคิด 00:07:50.000 --> 00:07:53.000 มีสิบสองเปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ทำ 00:07:53.000 --> 00:07:56.000 ออสเตรีย ประเทศเพื่อนบ้าน 00:07:56.000 --> 00:07:58.000 คล้ายกันนิดหน่อย ต่างกันเล็กน้อย 00:07:58.000 --> 00:08:00.000 ความแตกต่างคืออะไร? 00:08:00.000 --> 00:08:02.000 โอเค คุณยังมีทางเลือก 00:08:02.000 --> 00:08:04.000 คือเลือกได้ว่า 00:08:04.000 --> 00:08:07.000 อยากจะบริจาคอวัยวะหรือไม่อยาก 00:08:07.000 --> 00:08:09.000 แต่เวลาคุณได้ใบขับขี่ 00:08:09.000 --> 00:08:11.000 คุณจะติ๊ก 00:08:11.000 --> 00:08:15.000 ถ้าคุณไม่อยากบริจาคอวัยวะ 00:08:15.000 --> 00:08:17.000 ไม่มีใครติ๊กช่องนี้เลยครับ 00:08:17.000 --> 00:08:19.000 เหมือนว่าใช้ความพยายามมากเกิน 00:08:19.000 --> 00:08:22.000 มีคนติ๊กเปอร์เซ็นเดียว ที่เหลือไม่ทำอะไร 00:08:22.000 --> 00:08:24.000 การไม่ทำอะไรนี่ปกติมาก 00:08:24.000 --> 00:08:27.000 มีน้อยคนที่กาช่อง NOTE Paragraph 00:08:27.000 --> 00:08:29.000 นัยของมันคืออะไร 00:08:29.000 --> 00:08:31.000 ต่อการช่วยชีวิตคน 00:08:31.000 --> 00:08:34.000 และมีอวัยวะให้เปลี่ยนเพียงพอ? 00:08:34.000 --> 00:08:36.000 ในเยอรมนี คน 12 เปอร์เซ็นต์ติ๊กช่อง 00:08:36.000 --> 00:08:39.000 มีผู้บริจาคอวัยวะ 12 เปอร์เซ็นต์ 00:08:39.000 --> 00:08:41.000 อวัยวะขาดแคลนขนาดหนัก 00:08:41.000 --> 00:08:43.000 โชคดีเถอะ ถ้าคุณต้องเปลี่ยนอวัยวะ 00:08:43.000 --> 00:08:46.000 ในออสเตรีย เหมือนกันคือไม่มีใครกาช่อง 00:08:46.000 --> 00:08:49.000 ดังนั้น คน 99 เปอร์เซ็นต์ 00:08:49.000 --> 00:08:51.000 จึงเป็นผู้บริจาคอวัยวะ 00:08:51.000 --> 00:08:53.000 แรงเฉื่อย การไม่ทำอะไร 00:08:53.000 --> 00:08:55.000 อะไรคือตัวเลือกอัตโนมัติ 00:08:55.000 --> 00:08:57.000 ถ้าคนไม่ทำอะไร 00:08:57.000 --> 00:09:00.000 ถ้าพวกเขาผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อยๆ ถ้าไม่ติ๊กช่อง? 00:09:00.000 --> 00:09:02.000 มีพลังมากครับ 00:09:02.000 --> 00:09:04.000 เราจะพูดเรื่อง 00:09:04.000 --> 00:09:08.000 สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคนรูู้สึกกลัวและข้อมูลท่วม 00:09:08.000 --> 00:09:11.000 เวลาตัดสินใจแผนสำรองเลี้ยงชีพ 00:09:11.000 --> 00:09:14.000 เราจะทำให้พวกเขาเป็นสมาชิกโดยอัตโนมัติ 00:09:14.000 --> 00:09:16.000 หรือว่าให้เลือกเป็น? 00:09:16.000 --> 00:09:19.000 ในแผนสำรองเลี้ยงชีพจำนวนมาก 00:09:19.000 --> 00:09:21.000 ถ้าหากคนไม่ทำอะไร 00:09:21.000 --> 00:09:24.000 แปลว่าพวกเขาไม่ได้กำลังออมสำหรับวัยเกษียณ 00:09:24.000 --> 00:09:26.000 ถ้าพวกเขาไม่ติ๊กช่อง 00:09:26.000 --> 00:09:29.000 และการติ๊กนั้นต้องใช้ความพยายาม NOTE Paragraph 00:09:29.000 --> 00:09:32.000 เราได้คุยกัน เรื่องอุปสรรคเชิงพฤติกรรมสองสามเรื่อง 00:09:32.000 --> 00:09:35.000 ผมจะพูดอีกเรื่องก่อนที่เราจะพลิกอุปสรรคไปเป็นวิธีแก้ปัญหา 00:09:35.000 --> 00:09:37.000 เรื่องนี้เกี่ยวกับลิงและแอปเปิลครับ 00:09:37.000 --> 00:09:39.000 จริงๆ นะ มันเป็นงานวิจัยจริง 00:09:39.000 --> 00:09:43.000 และก็เกี่ยวข้องกับเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมมาก 00:09:43.000 --> 00:09:46.000 ลิงกลุ่มหนึ่งได้กินแอปเปิลลูกนึง พวกมันมีความสุขมาก 00:09:46.000 --> 00:09:48.000 อีกกลุ่มได้แอปเปิลสองลูก ลูกหนึ่งถูกยึดไป 00:09:48.000 --> 00:09:50.000 ยังมีเหลืออีกลูกหนึ่ง 00:09:50.000 --> 00:09:53.000 พวกมันโกรธมาก 00:09:53.000 --> 00:09:56.000 ทำไมแกถึงเอาแอปเปิลเราไป? 00:09:56.000 --> 00:09:59.000 พฤติกรรมนี้เรียกว่า ความเกลียดการสูญเสีย 00:09:59.000 --> 00:10:01.000 เราเกลียดมากเวลาต้องเสียอะไร 00:10:01.000 --> 00:10:04.000 ต่อให้มันจะมีความเสี่ยงน้อยมากก็เถอะ 00:10:04.000 --> 00:10:07.000 คุณคงเกลียดมากเวลาไปที่ตู้เอทีเอ็ม 00:10:07.000 --> 00:10:09.000 กดเงินออกมา 100 เหรียญ 00:10:09.000 --> 00:10:11.000 แล้วสังเกตว่าธนบัตรใบละ 20 เหรียญหายไปหนึ่งใบ 00:10:11.000 --> 00:10:13.000 เจ็บปวดมากเลย 00:10:13.000 --> 00:10:15.000 แม้มันจะไม่มีความหมายอะไร 00:10:15.000 --> 00:10:19.000 20 เหรียญนั่นซื้อข้าวเที่ยงกล่องเดียว ก็หมดแล้ว 00:10:19.000 --> 00:10:23.000 ความเกลียดการสูญเสียนี้ 00:10:23.000 --> 00:10:26.000 แสดงออกในเรื่องการออมเช่นกัน 00:10:26.000 --> 00:10:28.000 เพราะความรู้สึกของคนเรา 00:10:28.000 --> 00:10:31.000 ทั้งอารมณ์และสามัญสำนึก 00:10:31.000 --> 00:10:33.000 มองว่าการออมคือการสูญเสีย 00:10:33.000 --> 00:10:36.000 เพราะฉันต้องลดรายจ่าย NOTE Paragraph 00:10:36.000 --> 00:10:38.000 โอเคครับ เราพูดกันเรื่อง 00:10:38.000 --> 00:10:40.000 อุปสรรคเชิงพฤติกรรมครบแล้ว 00:10:40.000 --> 00:10:44.000 สุดท้ายก็เกี่ยวกับการออมทั้งหมด 00:10:44.000 --> 00:10:47.000 ไม่ว่าคุณจะนึกถึงการที่เราอดใจรอไม่ได้ 00:10:47.000 --> 00:10:50.000 ช็อกโกแลตเทียบกับกล้วย 00:10:50.000 --> 00:10:53.000 ยังไงก็เจ็บปวดถ้าต้องออมวันนี้ 00:10:53.000 --> 00:10:55.000 สนุกกว่ากันมาก 00:10:55.000 --> 00:10:57.000 ถ้าไปใช้เงินวันนี้ 00:10:57.000 --> 00:11:00.000 เราพูดถึงแรงเฉื่อยกับการบริจาคอวัยวะ 00:11:00.000 --> 00:11:02.000 และการติ๊กช่อง 00:11:02.000 --> 00:11:04.000 ถ้าคนต้องติ๊กหลายช่องมากๆ 00:11:04.000 --> 00:11:06.000 ก่อนจะเปิดบัญชีสำรองเลี้ยงชีพได้ 00:11:06.000 --> 00:11:08.000 พวกเขาก็จะผลัดวันประกันพรุ่ง 00:11:08.000 --> 00:11:10.000 และไม่สมัคร 00:11:10.000 --> 00:11:12.000 สุดท้าย เราพูดถึงความเกลียดการสูญเสีย 00:11:12.000 --> 00:11:14.000 ลิงกับแอปเปิล 00:11:14.000 --> 00:11:17.000 ถ้าในหัวคนมองว่า 00:11:17.000 --> 00:11:20.000 การออมเพื่อวัยเกษียณคือความสูญเสีย 00:11:20.000 --> 00:11:23.000 พวกเขาก็จะไม่ออมเพื่อวัยเกษียณ NOTE Paragraph 00:11:23.000 --> 00:11:25.000 เรามีความท้าทายเหล่านี้ 00:11:25.000 --> 00:11:27.000 สิ่งที่ ริชาร์ด เธเลอร์ กับผม 00:11:27.000 --> 00:11:29.000 รู้สึกอัศจรรย์ใจเสมอมา -- 00:11:29.000 --> 00:11:31.000 คือการนำการเงินเชิงพฤติกรรม 00:11:31.000 --> 00:11:33.000 ทำมันให้เป็นการเงินเชิงพฤติกรรมโฉมใหม่ 00:11:33.000 --> 00:11:35.000 หรือ การเงินเชิงพฤติกรรม 2.0 00:11:35.000 --> 00:11:37.000 หรือการเงินเชิงพฤติกรรมภาคปฏิบัติ -- 00:11:37.000 --> 00:11:41.000 พลิกอุปสรรคให้เป็นวิธีแก้ปัญหา 00:11:41.000 --> 00:11:44.000 เราคิดค้นวิธีแก้ปัญหาที่เรียบง่ายอย่างน่าเขิน 00:11:44.000 --> 00:11:48.000 เรียกว่า ออมเพิ่ม ไม่ใช่วันนี้ แต่ในวันพรุ่ง 00:11:48.000 --> 00:11:50.000 มันแก้ปัญหาความท้าทาย 00:11:50.000 --> 00:11:52.000 ที่เราพูดมาได้อย่างไร? 00:11:52.000 --> 00:11:54.000 ถ้าคุณคิดถึงปัญหา 00:11:54.000 --> 00:11:56.000 ของกล้วยกับช็อกโกแลต 00:11:56.000 --> 00:11:59.000 เราคิดว่าสัปดาห์หน้าเราจะกินกล้วย 00:11:59.000 --> 00:12:02.000 เราคิดว่าปีหน้าเราจะออมมากขึ้น 00:12:02.000 --> 00:12:05.000 ออมเพิ่มในวันพรุ่ง 00:12:05.000 --> 00:12:07.000 เชื้อเชิญให้พนักงาน 00:12:07.000 --> 00:12:09.000 ออมมากกว่าเดิม อาจจะปีหน้า -- 00:12:09.000 --> 00:12:11.000 ซักครั้งในอนาคต 00:12:11.000 --> 00:12:13.000 เมื่อเราจินตนาการว่าตัวเอง 00:12:13.000 --> 00:12:15.000 กำลังกินกล้วย 00:12:15.000 --> 00:12:17.000 ทำงานอาสามากขึ้นในชุมชน 00:12:17.000 --> 00:12:21.000 ออกกำลังกายมากขึ้น ทำสิ่งที่ถูกต้องสำหรับโลก NOTE Paragraph 00:12:21.000 --> 00:12:24.000 ทีนี้ เราพูดไปแล้วด้วยเรื่องติ๊กช่อง 00:12:24.000 --> 00:12:27.000 และความยากลำบากของการลงมือทำ 00:12:27.000 --> 00:12:29.000 ออมเพิ่มในวันพรุ่ง 00:12:29.000 --> 00:12:31.000 ทำให้เรื่องนี้ง่ายมาก 00:12:31.000 --> 00:12:33.000 มันจัดการให้โดยอัตโนมัติ 00:12:33.000 --> 00:12:37.000 เมื่อคุณบอกผมว่าคุณอยากออมมากขึ้นในอนาคต 00:12:37.000 --> 00:12:39.000 สมมุติว่าทุกเดือนมกราคม 00:12:39.000 --> 00:12:42.000 คุณก็จะออมเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ 00:12:42.000 --> 00:12:45.000 เราจะหักเงินเดือนคุณทันที เอาเงินใส่บัญชีสำรองเลี้ยงชีพ 00:12:45.000 --> 00:12:47.000 ก่อนที่คุณจะเห็น ก่อนที่คุณจะได้แตะต้องมัน 00:12:47.000 --> 00:12:49.000 ก่อนที่คุณจะไปถึงประเด็น 00:12:49.000 --> 00:12:52.000 อดใจรอไม่ไหว 00:12:52.000 --> 00:12:55.000 แต่เราจะทำยังไงเรื่องลิง 00:12:55.000 --> 00:12:57.000 กับความเกลียดความสูญเสีย? 00:12:57.000 --> 00:12:59.000 ปีหน้าพอถึงเดือนมกรา 00:12:59.000 --> 00:13:01.000 คนอาจรู้สึกว่าถ้าออมมากขึ้น 00:13:01.000 --> 00:13:04.000 ก็จะต้องใช้เงินน้อยลง รู้สึกเดือดร้อน 00:13:05.000 --> 00:13:07.000 ครับ บางทีมันอาจไม่ใช่แค่มกราคม 00:13:07.000 --> 00:13:10.000 บางทีเราอาจให้คนออมมากขึ้น 00:13:10.000 --> 00:13:13.000 ทุกครั้งที่ได้เงินมากขึ้น 00:13:13.000 --> 00:13:16.000 วิธีนี้ เวลาที่พวกเขามีเงินมากขึ้น ตอนได้ขึ้นเงินเดือน 00:13:16.000 --> 00:13:20.000 พวกเขาจะได้ไม่ต้องลดค่าใช้จ่าย 00:13:20.000 --> 00:13:22.000 พวกเขาดึงเงินส่วนหนึ่ง 00:13:22.000 --> 00:13:24.000 จากเงินเดือนส่วนที่เพิ่มขึ้น 00:13:24.000 --> 00:13:26.000 เอาไปใช้มากขึ้น -- 00:13:26.000 --> 00:13:28.000 แล้วกันเงินอีกส่วนของส่วนเพิ่ม 00:13:28.000 --> 00:13:30.000 ไปใส่บัญชีสำรองเลี้ยงชีพ NOTE Paragraph 00:13:30.000 --> 00:13:32.000 นี่คือโครงการของเราครับ 00:13:32.000 --> 00:13:34.000 เรียบง่ายอย่างน่าเขิน 00:13:34.000 --> 00:13:36.000 แต่เราจะได้เห็นว่า 00:13:36.000 --> 00:13:38.000 มีพลังมหาศาล 00:13:38.000 --> 00:13:40.000 ครั้งแรกเราลงมือทำ 00:13:40.000 --> 00:13:42.000 ริชาร์ด เธเลอร์ กับผม 00:13:42.000 --> 00:13:45.000 ในปี 1998 00:13:45.000 --> 00:13:48.000 ให้กับบริษัทขนาดกลาง ในภาคตะวันตกตอนกลาง 00:13:48.000 --> 00:13:50.000 คนงานระดับล่าง 00:13:50.000 --> 00:13:52.000 ดิ้นรนหมุนเดือนชนเดือน 00:13:52.000 --> 00:13:54.000 พวกเขาย้ำกับเรานักหนาว่า 00:13:54.000 --> 00:13:57.000 ออมเพิ่มทันทีไม่ได้เลย 00:13:57.000 --> 00:14:00.000 ให้ออมเพิ่มวันนี้ไม่มีทาง 00:14:00.000 --> 00:14:02.000 เราเชิญให้พวกเขา 00:14:02.000 --> 00:14:05.000 ออมมากกว่าเดิม 3 เปอร์เซ็นต์ 00:14:05.000 --> 00:14:08.000 ทุกครั้งที่ได้ขึ้นเงินเดือน 00:14:08.000 --> 00:14:11.000 และนี่คือผลลัพธ์ครับ 00:14:11.000 --> 00:14:13.000 เรากำลังดูช่วงเวลาสามปีครึ่ง 00:14:13.000 --> 00:14:15.000 ระหว่างนั้นขึ้นเงินเดือนสี่ครั้ง 00:14:15.000 --> 00:14:17.000 คนที่ดิ้นรนอยากออม 00:14:17.000 --> 00:14:19.000 กำลังออม 3 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน 00:14:19.000 --> 00:14:21.000 ถัดมาสามปีครึ่ง 00:14:21.000 --> 00:14:24.000 พวกเขาออมได้มากกว่าเดิมสี่เท่า 00:14:24.000 --> 00:14:27.000 คือเกือบ 14 เปอร์เซ็นต์ NOTE Paragraph 00:14:27.000 --> 00:14:29.000 มีรองเท้า จักรยาน 00:14:29.000 --> 00:14:31.000 และของอื่นๆ ในชาร์ตนี้ 00:14:31.000 --> 00:14:33.000 เพราะผมไม่อยากใส่แค่ตัวเลข 00:14:33.000 --> 00:14:35.000 ในสูญญากาศ 00:14:35.000 --> 00:14:38.000 ผมอยากคิดถึงข้อเท็จจริง 00:14:38.000 --> 00:14:40.000 ที่ว่าการออมมากขึ้นสี่เท่า 00:14:40.000 --> 00:14:42.000 คือความเปลี่ยนแปลงมหาศาล 00:14:42.000 --> 00:14:44.000 ในแง่ของวิถีชีวิต 00:14:44.000 --> 00:14:46.000 ที่คนมีกำลังซื้อพอให้ใช้ 00:14:46.000 --> 00:14:48.000 เรื่องจริงครับ 00:14:48.000 --> 00:14:51.000 ไม่ใช่แค่ตัวเลขบนกระดาษ 00:14:51.000 --> 00:14:53.000 การออมสามเปอร์เซ็นต์ 00:14:53.000 --> 00:14:55.000 อาจทำให้คนซื้อรองเท้าผ้าใบ 00:14:55.000 --> 00:14:57.000 ดีๆ คู่หนึ่งมาใช้ 00:14:57.000 --> 00:15:01.000 เพราะไม่มีกำลังซื้อของอย่างอื่น 00:15:01.000 --> 00:15:03.000 แต่พอออมได้ 14 เปอร์เซ็นต์ 00:15:03.000 --> 00:15:06.000 พวกเขาอาจมีรองเท้าทำงาน 00:15:06.000 --> 00:15:09.000 ใส่เดินไปขับรถ 00:15:09.000 --> 00:15:11.000 นี่คือความแตกต่างที่แท้จริง 00:15:11.000 --> 00:15:16.000 ตอนนี้บริษัทขนาดใหญ่ประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ 00:15:16.000 --> 00:15:19.000 มีโครงการทำนองนี้แล้ว 00:15:19.000 --> 00:15:22.000 มันเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายคุ้มครองบำนาญ 00:15:22.000 --> 00:15:24.000 ไม่ต้องพูดเลยว่า เธเลอร์กับผม 00:15:24.000 --> 00:15:27.000 ได้รับพรศักสิทธิ์ที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนี้ 00:15:27.000 --> 00:15:29.000 และสร้างการเปลี่ยนแปลง NOTE Paragraph 00:15:29.000 --> 00:15:31.000 ผมอยากจะจบ 00:15:31.000 --> 00:15:34.000 ด้วยสองข้อความสำคัญครับ 00:15:34.000 --> 00:15:37.000 ข้อแรกคือ การเงินเชิงพฤติกรรม 00:15:37.000 --> 00:15:40.000 มีพลังมหาศาล 00:15:40.000 --> 00:15:43.000 นี่เป็นแค่ตัวอย่างเดียวเท่านั้น 00:15:43.000 --> 00:15:45.000 ข้อที่สองคือ 00:15:45.000 --> 00:15:47.000 ยังมีงานอีกมากที่เราต้องทำ 00:15:47.000 --> 00:15:50.000 นี่เป็นแค่ยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น 00:15:50.000 --> 00:15:53.000 ถ้าคุณคิดถึงคนและสินเชื่อบ้าน 00:15:53.000 --> 00:15:56.000 ซื้อบ้านมาแล้วก็ผ่อนไม่ได้ 00:15:56.000 --> 00:15:58.000 เราต้องคิดถึงเรื่องนี้ 00:15:58.000 --> 00:16:01.000 ถ้าคุณกำลังคิดเรื่องที่คนรับความเสี่ยงมากไป 00:16:01.000 --> 00:16:04.000 แต่ไม่เข้าใจว่ากำลังรับความเสี่ยงขนาดไหน 00:16:04.000 --> 00:16:06.000 หรือคนอื่นที่เสี่ยงน้อยเกินไป 00:16:06.000 --> 00:16:08.000 เราต้องคิดถึงเรื่องนี้ 00:16:08.000 --> 00:16:11.000 ถ้าคุณคิดเรื่องคนที่ใช้เงินเป็นพันๆ เหรียญในแต่ละปี 00:16:11.000 --> 00:16:13.000 ซื้อหวย 00:16:13.000 --> 00:16:15.000 เราต้องคิดเรื่องนั้นด้วย 00:16:15.000 --> 00:16:17.000 ที่จริงค่าเฉลี่ย 00:16:17.000 --> 00:16:19.000 ของสถิติในสิงคโปร์ 00:16:19.000 --> 00:16:21.000 ครัวเรือนโดยเฉลี่ย 00:16:21.000 --> 00:16:24.000 ใช้เงินซื้อหวย 4,000 เหรียญต่อปี 00:16:24.000 --> 00:16:26.000 เรามีงานต้องทำอีกเยอะครับ 00:16:26.000 --> 00:16:28.000 ปัญหาต้องแก้อีกมาก 00:16:28.000 --> 00:16:31.000 ในเรื่องวัยเกษียณด้วย 00:16:31.000 --> 00:16:33.000 ประเด็นว่าคนเราใช้เงินทำอะไร 00:16:33.000 --> 00:16:35.000 หลังเกษียณ NOTE Paragraph 00:16:35.000 --> 00:16:37.000 คำถามสุดท้ายคือ 00:16:37.000 --> 00:16:40.000 พวกคุณกี่คนรู้สึกพอใจว่า 00:16:40.000 --> 00:16:42.000 ระหว่างที่วางแผนวัยเกษียณ 00:16:42.000 --> 00:16:45.000 มีแผนการที่ดีจริงๆ 00:16:45.000 --> 00:16:47.000 ว่าจะเกษียณเมื่อไหร่ 00:16:47.000 --> 00:16:50.000 จะขอรับเงินชดเชยจากประกันสังคมเมื่อไหร่ 00:16:50.000 --> 00:16:52.000 จะมีวิถีชีวิตยังไง 00:16:52.000 --> 00:16:54.000 จะใช้เงินเท่าไหร่ต่อเดือน 00:16:54.000 --> 00:16:56.000 เพื่อให้เงินไม่หมด? 00:16:56.000 --> 00:16:59.000 มีกี่คนครับในนี้ ที่รู้สึกว่าวางแผนไว้ดีพอสำหรับอนาคต 00:16:59.000 --> 00:17:03.000 เมื่อพูดถึงการใช้ชีวิตหลังเกษียณ 00:17:04.000 --> 00:17:07.000 หนึ่ง สอง สาม สี่ 00:17:07.000 --> 00:17:09.000 ไม่ถึงสามเปอร์เซ็นต์ 00:17:09.000 --> 00:17:11.000 ในกลุ่มผู้ฟังที่ฉลาดมาก 00:17:11.000 --> 00:17:14.000 หนทางของการเงินเชิงพฤติกรรมยังอีกไกลครับ 00:17:14.000 --> 00:17:16.000 มีโอกาสมากมาย 00:17:16.000 --> 00:17:20.000 ที่จะทำให้มันมีพลัง อีกครั้งและอีกครั้งและอีกครั้ง NOTE Paragraph 00:17:20.000 --> 00:17:22.000 ขอบคุณครับ NOTE Paragraph 00:17:22.000 --> 00:17:24.000 (เสียงปรบมือ)