0:00:00.273,0:00:04.679 ผมอยากให้ทุกคนลองหลับตา 0:00:04.679,0:00:07.996 นึกภาพว่าคุณกำลังยืน 0:00:07.996,0:00:11.123 อยู่หน้าประตูบ้านของคุณเอง 0:00:11.123,0:00:14.792 ขอให้คุณสังเกตสีของประตู 0:00:14.792,0:00:18.788 สังเกตว่าประตูทำจากวัสดุอะไร 0:00:18.788,0:00:25.508 ทีนี้ลองนึกภาพคนอ้วนเปลือยกลุ่มหนึ่งกำลังขี่จักรยานอยู่ 0:00:25.508,0:00:28.708 พวกเขากำลังแข่งขันปั่นจักรยานเปลือย 0:00:28.708,0:00:32.458 และกำลังมุ่งหน้าไปยังประตูบ้านของคุณ 0:00:32.458,0:00:34.408 ผมอยากให้คุณจินตนาการจนเห็นภาพนี้จริงๆ 0:00:34.408,0:00:37.500 พวกเขาปั่นด้วยความเร็วสูง เหงื่อโทรมกาย 0:00:37.500,0:00:40.404 กระเด้งกระดอนใหญ่เลย 0:00:40.404,0:00:44.208 แล้วในที่สุดก็ชนโครมเข้าที่ประตูบ้านคุณ 0:00:44.208,0:00:48.127 จักรยานกระเด็นเกลื่อนกลาด ล้อหลุดกลิ้งผ่านคุณไป 0:00:48.127,0:00:51.958 ซี่ล้อกระจายไปทั่ว 0:00:51.958,0:00:55.183 ทีนี้ลองก้าวข้ามธรณีประตูของคุณ 0:00:55.183,0:00:58.023 เข้าไปสู่ห้องโถง ทางเดิน หรืออะไรก็ตามที่อยู่อีกฟาก 0:00:58.023,0:01:01.929 ลองพิจารณาลำแสง 0:01:01.929,0:01:07.606 ที่สาดส่องมายังเจ้าตัวคุกกี้ มอนสเตอร์ 0:01:07.606,0:01:10.792 คุกกี้ มอนสเตอร์โบกมือให้คุณ 0:01:13.496,0:01:15.304 จากบนหลังม้าสีแทนที่เขานั่งอยู่ 0:01:13.496,0:01:15.304 มันเป็นม้าพูดได้ 0:01:15.304,0:01:19.837 ขนสีฟ้าของเขาปลิวมาโดนจมูกของคุณจนรู้สึกจั๊กจี้ 0:01:19.837,0:01:24.114 คุณได้กลิ่นคุกกี้ข้าวโอ๊ตกับลูกเกด[br]ที่เขากำลังจะเขมือบเข้าปาก 0:01:24.114,0:01:27.921 เดินผ่านเขาไปทางห้องนั่งเล่นของคุณ 0:01:27.921,0:01:30.958 ในห้องนั่งเล่น ใช้จินตนาการให้เต็มที่ 0:01:30.958,0:01:33.770 จนคุณเห็นบริตนี่ย์ สเปียส์ 0:01:33.770,0:01:39.265 เธอนุ่งน้อยห่มน้อย กำลังเต้นอยู่บนโต๊ะกาแฟของคุณ 0:01:39.265,0:01:41.809 และร้องเพลง "Hit Me Baby One More Time" 0:01:41.809,0:01:44.731 ทีนี้ตามผมมาในครัวของคุณ 0:01:44.731,0:01:49.031 ในครัวของคุณ ตอนนี้มีถนนปูอิฐสีเหลืองพาดผ่าน 0:01:49.031,0:01:52.725 อะไรบางอย่างกำลังเดินออกจากเตาอบมาหาคุณ 0:01:52.725,0:01:54.792 โดโรธี มนุษย์สังกะสี 0:01:54.792,0:01:57.173 หุ่นไล่กา และสิงโตจากเรื่องพ่อมดออสซ์ 0:01:57.173,0:02:00.000 กำลังจับมือกันกึ่งเดินกึ่งกระโดดตรงมาหาคุณ 0:02:00.000,0:02:04.333 โอเคครับ ลืมตาได้ 0:02:04.333,0:02:07.792 ผมอยากเล่าให้คุณฟัง เรื่องการแข่งขันประหลาดๆ 0:02:07.792,0:02:10.875 ที่จัดขึ้นทุกฤดูใบไม้ผลิในเมืองนิวยอร์ก 0:02:10.875,0:02:14.362 งานนี้เรียกว่า การชิงแชมป์นักจำแห่งสหรัฐอเมริกา[br](United States Memory Championship) 0:02:14.362,0:02:17.260 ผมไปทำข่าวการแข่งขันนี้เมื่อสองสามปีก่อน 0:02:17.260,0:02:19.457 ในฐานะผู้สื่อข่าวสายวิทยาศาสตร์ 0:02:19.457,0:02:21.792 โดยคาดหวังว่า งานนี้คงน่าตื่นเต้น 0:02:21.792,0:02:24.621 เหมือนการแข่งซุเปอร์โบวล์ของนักปราชญ์ขั้นเทพ 0:02:24.621,0:02:28.130 ปรากฏว่า คนเหล่านี้ คือผู้ชายกลุ่มใหญ่ กับผู้หญิงไม่กี่คน 0:02:28.130,0:02:32.869 ที่มีความหลากหลายสูงมาก [br]ทั้งเรื่องอายุ และระดับการรักษาสุขอนามัย 0:02:32.869,0:02:35.150 (เสียงหัวเราะ) 0:02:35.150,0:02:39.359 พวกเขาจำตัวเลขสุ่มนับร้อยๆ ตัว 0:02:39.359,0:02:40.771 หลังจากมองดูแค่ครั้งเดียว 0:02:40.771,0:02:45.133 พวกเขาจำชื่อคนแปลกหน้าจำนวนไม่รู้กี่โหลต่อกี่โหล 0:02:45.133,0:02:48.571 จำบทกวีทั้งบทภายในสองสามนาที 0:02:48.571,0:02:50.750 พวกเขาแข่งกันเพื่อดูว่าใครจะสามารถ 0:02:50.750,0:02:54.750 จำลำดับของไพ่ในกองที่สับแล้วได้เร็วที่สุด 0:02:54.750,0:02:56.594 ผมแบบ... โอ้ นี่มันเหลือเชื่อ 0:02:56.594,0:02:59.750 คนพวกนี้ต้องเป็นมนุษย์ประหลาดแน่ๆ 0:02:59.750,0:03:03.375 แล้วผมก็เริ่มคุยกับผู้เข้าแข่งขันสองสามคน 0:03:03.375,0:03:04.750 ชายคนนี้ชื่อเอ็ด คุก 0:03:04.750,0:03:06.317 มาจากอังกฤษ 0:03:06.317,0:03:08.283 เขาเป็นหนึ่งในคนที่ฝึกฝนความจำมาดีที่สุด 0:03:08.283,0:03:12.048 ผมถามเขาว่า "เอ็ด คุณรู้ตัวเมื่อไหร่ 0:03:12.048,0:03:14.556 ว่าคุณเป็นนักปราชญ์ขั้นเทพ?" 0:03:14.556,0:03:17.320 เอ็ดตอบมาว่า "ผมไม่ใช่นักปราชญ์ขั้นเทพ 0:03:17.320,0:03:19.896 ที่จริงผมมีความจำดีปานกลางเท่านั้นแหละ 0:03:19.896,0:03:21.568 ทุกคนที่มาแข่งในงานนี้ 0:03:21.568,0:03:24.829 จะพูดเหมือนกันหมด ว่าเขาความจำดีปานกลาง 0:03:24.829,0:03:26.708 แต่เราทุกคนล้วนฝึกฝนตัวเอง 0:03:26.708,0:03:30.929 ให้สามารถจำได้ดีอย่างน่าอัศจรรย์ 0:03:30.929,0:03:32.987 โดยใช้เทคนิคโบราณ 0:03:32.987,0:03:36.535 ที่ถูกคิดค้นขึ้นมาในประเทศกรีซเมื่อ 2,500 ปีก่อน 0:03:36.535,0:03:39.667 เทคนิคเดียวกับที่ซิเซโรใช้ 0:03:39.667,0:03:41.527 ในการจดจำปาฐกถาที่เขาจะพูด 0:03:41.527,0:03:45.721 และที่นักวิชาการในยุคกลาง[br]ใช้เพื่อช่วยจำหนังสือทั้งเล่ม 0:03:45.721,0:03:49.437 ผมได้ฟังก็แบบ "โว้ว ทำไมผมไม่เคยได้ยิน[br]เรื่องนี้มาก่อนเลยเนี่ย?" 0:03:49.437,0:03:52.156 แล้วเราก็ออกมายืนกันหน้าหอประชุมที่ใช้จัดการแข่งขัน 0:03:52.156,0:03:55.833 แล้วเอ็ด ชายนิสัยดี ฉลาดหลักแหลม 0:03:55.833,0:03:58.898 แต่ท่าทางประหลาด จากประเทศอังกฤษ 0:03:58.898,0:04:03.333 พูดกับผมว่า "โจช คุณเป็นนักข่าวอเมริกัน 0:04:03.333,0:04:05.439 คุณสนิทกับบริตนีย์ สเปียส์ไหม?" 0:04:05.439,0:04:10.252 ผมแบบ "อะไรนะ? ไม่อ่ะ ทำไมเหรอ?" 0:04:10.252,0:04:13.333 "เพราะผมอยากจะสอนบริตนีย์ สเปียส์ 0:04:13.333,0:04:15.962 ให้จำลำดับของไพ่ในกองที่สับแล้ว 0:04:15.962,0:04:18.208 ออกโทรทัศน์ในอเมริกา 0:04:18.208,0:04:21.479 เพื่อพิสูจน์ให้โลกเห็นว่าใครๆ ก็ทำอย่างนี้ได้" 0:04:21.479,0:04:25.893 (เสียงหัวเราะ) 0:04:25.893,0:04:29.383 ผมเลยบอกว่า "เอ่อ ผมไม่ใช่บริตนีย์ สเปียส์ 0:04:29.383,0:04:32.148 แต่คุณจะลองสอนผมดูก็ได้นะ 0:04:32.148,0:04:34.583 คือ คุณต้องลองกับใครสักคนก่อน ใช่ไหมล่ะ?" 0:04:34.583,0:04:38.375 และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเดินทาง[br]ที่แสนประหลาดของผม 0:04:38.375,0:04:41.279 กลายเป็นว่า ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ในปีถัดมา 0:04:41.279,0:04:43.375 ไม่เพียงแต่ฝึกฝนความจำของผม 0:04:43.375,0:04:45.125 แต่ยังศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับความจำ 0:04:45.125,0:04:47.231 เพื่อพยายามเข้าใจว่ามันทำงานอย่างไร 0:04:47.231,0:04:49.502 ทำไมบางครั้งมันจึงทำงานได้ไม่ดี 0:04:49.502,0:04:51.987 และมันมีศักยภาพแค่ไหน 0:04:51.987,0:04:54.293 ผมพบคนที่น่าสนใจสุดๆ มากมาย 0:04:54.293,0:04:56.075 ผู้ชายคนนี้ชื่อว่า อี.พี. 0:04:56.075,0:04:58.583 เขาเป็นโรคความจำเสื่อม 0:04:58.583,0:05:01.292 และน่าจะเป็นคนที่ความแย่ที่สุดในโลก 0:05:01.292,0:05:02.952 ความจำของเขาแย่มาก 0:05:02.952,0:05:05.702 ถึงขั้นที่เขาจำไม่ได้ว่าเขามีปัญหาเรื่องความจำ 0:05:05.702,0:05:07.589 ซึ่งน่าทึ่งมาก 0:05:07.589,0:05:09.304 ชีวิตของเขาน่าเศร้าอย่างเหลือเชื่อ 0:05:09.304,0:05:11.292 แต่เขาก็เป็นหน้าต่างที่ทำให้เราเห็น 0:05:11.292,0:05:15.102 ว่าความทรงจำสำคัญกับความเป็นตัวตนของเราแค่ไหน 0:05:15.102,0:05:18.140 ในขั้วตรงกันข้าม ผมพบผู้ชายคนนี้ 0:05:18.140,0:05:19.877 นี่คือคิม พีค (Kim Peek) 0:05:19.877,0:05:23.364 เขาคือที่มาของตัวละครที่รับบท[br]โดยดัสติน ฮอฟแมนในเรื่อง Rain Man 0:05:23.364,0:05:26.046 บ่ายวันหนึ่ง [br]เรานั่งจำชื่อในสมุดโทรศัพท์อยู่ด้วยกัน 0:05:26.046,0:05:29.683 ที่ห้องสมุดสาธารณะ เมืองซอลท์ เลค ซิตี้ 0:05:29.683,0:05:32.770 สนุกมากเลยนะ 0:05:32.770,0:05:35.727 (เสียงหัวเราะ) 0:05:35.727,0:05:39.157 แล้วผมก็ย้อนไปอ่านหนังสือโบราณต่างๆ[br]เกี่ยวกับความทรงจำ 0:05:39.157,0:05:42.990 หนังสือพวกนี้เขียนขึ้นมานานกว่า 2,000 ปีที่แล้ว 0:05:42.990,0:05:44.896 ในภาษาละติน ตั้งแต่ยุคโบราณ 0:05:44.896,0:05:47.233 และต่อมาในยุคกลาง 0:05:47.233,0:05:49.796 ผมได้เรียนรู้อะไรๆ ที่น่าสนใจมากมาย 0:05:49.796,0:05:53.038 เรื่องน่าสนใจเรื่องหนึ่งที่ผมได้รู้คือ 0:05:53.038,0:05:55.514 สมัยก่อนนี้ 0:05:55.514,0:06:01.286 การมีความจำที่ได้รับการฝึกฝน ขัดเกลา และปลูกฝังอย่างดี 0:06:01.286,0:06:06.314 ไม่ใช่เรื่องแปลกอย่างที่ทุกวันนี้เรารู้สึกกัน 0:06:06.314,0:06:11.071 สมัยก่อน คนเราทุ่มเทฝึกฝนความจำ 0:06:11.071,0:06:16.096 เพียรพยายามพัฒนาจิตของตน 0:06:16.096,0:06:18.219 ไม่กี่พันปีมานี้เอง 0:06:18.219,0:06:20.965 ที่เราเริ่มพัฒนาเทคโนโลยีหลากหลาย 0:06:20.965,0:06:23.375 ตั้งแต่ตัวอักษรไปถึงม้วนกระดาษ 0:06:23.375,0:06:25.694 หนังสือที่เขียนด้วยลายมือ แท่นพิมพ์ ภาพถ่าย 0:06:25.694,0:06:27.608 คอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟน 0:06:27.608,0:06:30.540 ซึ่งทำให้มันง่ายขึ้นเรื่อยๆ 0:06:30.540,0:06:33.125 ที่จะเก็บความจำไว้นอกสมอง 0:06:33.125,0:06:35.367 และยกสิ่งที่เป็นความสามารถ 0:06:35.367,0:06:39.080 ขั้นพื้นฐานของมนุษย์ข้อนี้[br]ให้เทคโนโลยีทำแทน 0:06:39.080,0:06:42.679 เทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้โลกสมัยใหม่เกิดขึ้นได้ 0:06:42.679,0:06:44.477 แต่มันก็เปลี่ยนแปลงเราไปด้วย 0:06:44.477,0:06:46.227 มันเปลี่ยนเราในแง่วัฒนธรรม 0:06:46.227,0:06:49.761 และผมว่า มันเปลี่ยนกระบวนการคิดเราด้วย 0:06:49.761,0:06:52.327 เมื่อเราไม่จำเป็นต้องจำอะไรมากมายนัก 0:06:52.327,0:06:55.444 บางทีก็ดูเหมือนเราลืมวิธีจำไป 0:06:55.444,0:06:57.183 ที่สุดท้ายบนโลกนี้ 0:06:57.183,0:07:00.287 ที่คุณจะยังได้เห็นคนที่หลงใหล 0:07:00.287,0:07:03.529 เรื่องการฝึกฝน ขัดเกลา และปลูกฝังความจำ 0:07:03.529,0:07:06.288 ก็คือที่การแข่งขันความจำนี่แหละ 0:07:06.288,0:07:07.604 ที่จริงงานนี้ไม่ใช่งานเดียว 0:07:07.604,0:07:09.929 มีการแข่งขันแบบนี้อยู่ทั่วโลก 0:07:09.929,0:07:14.087 ผมทึ่งกับคนพวกนี้ และอยากรู้ว่าเขาทำได้อย่างไร 0:07:14.087,0:07:18.806 สองสามปีที่แล้ว นักวิจัยกลุ่มหนึ่งที่ [br]University College กรุงลอนดอน 0:07:18.806,0:07:21.583 พาแชมป์ความจำหลายคนมาที่แล็บ 0:07:21.583,0:07:23.089 พวกเราอยากรู้ว่า 0:07:23.089,0:07:24.456 สมองของคนพวกนี้แตกต่าง 0:07:24.456,0:07:28.898 จากคนทั่วไปอย่างเราๆ [br]ในแง่โครงสร้างหรือกายวิภาคหรือเปล่า? 0:07:28.898,0:07:31.902 คำตอบคือ ไม่ 0:07:31.902,0:07:35.006 คนพวกนี้ฉลาดกว่าพวกเราหรือเปล่า? 0:07:35.006,0:07:36.717 นักวิจัยให้พวกเขาทำแบบทดสอบทางปัญญามากมาย 0:07:36.717,0:07:38.987 คำตอบคือ ก็ไม่ได้ฉลาดไปกว่ากันเท่าไหร่ 0:07:38.987,0:07:42.315 แต่มีความแตกต่างอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ[br]และบอกอะไรเราได้เยอะมาก 0:07:42.315,0:07:44.423 นั่นคือ ความแตกต่างในสมองของแชมป์นักจำ 0:07:44.423,0:07:46.990 กับกลุ่มควบคุมที่นำมาเปรียบเทียบ 0:07:46.990,0:07:49.667 เมื่อนำคนสองกลุ่มนี้ไปเข้าเครื่อง fMRI 0:07:49.667,0:07:51.711 สแกนสมองด้วยคลื่นแม่เหล็ก 0:07:51.711,0:07:56.717 ขณะที่พวกเขาจดจำตัวเลข ใบหน้าคน และรูปผลึกหิมะ 0:07:56.717,0:07:59.033 นักวิจัยพบว่า สมองของแชมป์นักจำ 0:07:59.033,0:08:01.277 มีการทำงานในจุดที่แตกต่าง 0:08:01.277,0:08:03.288 จากคนทั่วไป 0:08:03.288,0:08:06.573 ดูเหมือนว่าแชมป์นักจำจะใช้สมอง 0:08:06.573,0:08:10.790 ส่วนที่ใช้ในการจำภาพพื้นที่และการนำทาง 0:08:10.790,0:08:17.033 ทำไมล่ะ? แล้วเราจะเรียนรู้อะไรจากข้อค้นพบนี้ได้ไหม? 0:08:17.033,0:08:21.233 การแข่งขันชิงแชมป์ความจำนั้น 0:08:21.233,0:08:24.081 ก็เหมือนการแข่งขันสร้างและสะสมอาวุธ 0:08:24.081,0:08:27.125 ทุกๆ ปี ใครคนหนึ่งจะคิดค้นวิธีใหม่ 0:08:27.125,0:08:29.813 เพื่อให้จำได้มากขึ้นและเร็วขึ้น 0:08:29.813,0:08:31.652 แล้วคนอื่นที่เหลือก็ต้องพยายามตีตื้น 0:08:31.652,0:08:33.500 นี่คือเพื่อนของผม ชื่อ เบน พริดมอร์ 0:08:33.500,0:08:35.250 นักจำแชมป์โลกสามสมัย 0:08:35.250,0:08:37.083 บนโต๊ะตรงหน้าเขา 0:08:37.083,0:08:40.777 มีไพ่ที่สับแล้ว 36 สำรับ 0:08:40.777,0:08:43.525 ที่เขาต้องพยายามจำให้ได้ภายในหนึ่งชั่วโมง 0:08:43.525,0:08:47.881 โดยใช้เทคนิคที่เขาคิดค้นขึ้นและฝึกฝนจนชำนาญ 0:08:47.881,0:08:49.792 เขาใช้เทคนิคคล้ายกันนี้ 0:08:49.792,0:08:52.234 จำลำดับที่ถูกต้องทั้งหมด 0:08:52.234,0:08:58.042 ของตัวเลขฐานสองที่สุ่มขึ้นมา 4,140 ตัว 0:08:58.042,0:09:00.944 ภายในครึ่งชั่วโมง 0:09:00.944,0:09:02.875 ใช่ครับ 0:09:02.875,0:09:06.423 และแม้จะมีวิธีแตกต่างหลากหลาย 0:09:06.423,0:09:10.000 ในการจำสิ่งต่างๆ ในการแข่งขันนี้ 0:09:10.000,0:09:12.892 ทุกอย่าง ทุกเทคนิคที่ใช้กัน 0:09:12.892,0:09:15.500 ที่สุดแล้วก็มาจากแนวคิด 0:09:15.500,0:09:19.148 ที่นักจิตวิทยาเรียกว่า การเข้ารหัสอย่างละเอียดลึกซึ้ง 0:09:19.148,0:09:21.829 ซึ่งอธิบายได้ด้วยตัวอย่างเก๋ๆ 0:09:21.829,0:09:23.875 ที่เรียกว่า ปฏิทรรศน์ เรื่อง Baker กับ baker 0:09:23.875,0:09:25.437 มันเป็นอย่างนี้ครับ 0:09:25.437,0:09:28.333 ถ้าผมบอกให้คนสองคนจำคำคำเดียวกัน 0:09:28.333,0:09:29.900 ผมบอกคุณว่า 0:09:29.900,0:09:33.527 "ให้จำว่ามีผู้ชายคนหนึ่งชื่อ เบเกอร์ (Baker)" 0:09:33.527,0:09:35.033 นั่นคือชื่อเขา 0:09:35.033,0:09:40.819 แล้วผมบอกคุณว่า "ให้จำว่ามีผู้ชายคนหนึ่ง[br]มีอาชีพเป็น เบเกอร์ (baker) หรือ คนทำขนมปัง" 0:09:40.819,0:09:44.061 เมื่อเวลาผ่านไป ผมกลับมาถามคุณใหม่ 0:09:44.061,0:09:47.100 ผมถามว่า "คุณจำคำนั้นได้ไหม 0:09:47.100,0:09:48.477 ที่ผมบอกคุณสักพักก่อนหน้านี้? 0:09:48.477,0:09:50.275 คุณจำได้ไหมว่าคำนั้นคืออะไร?" 0:09:50.275,0:09:53.542 คนที่ผมบอกว่า ผู้ชายคนนี้ชื่อเบเกอร์ (Baker) 0:09:53.542,0:09:55.861 จำคำว่าเบเกอร์ (Baker) ไม่ค่อยได้ 0:09:55.861,0:09:59.712 เมื่อเทียบกับคนที่ผมบอกว่า [br]เขาทำงานเป็นเบเกอร์ (baker) หรือคนทำขนมปัง 0:09:59.712,0:10:02.791 คำคำเดียวกัน แต่คนจำได้มากน้อยต่างกัน แปลกไหมครับ 0:10:02.791,0:10:04.768 มันเกิดอะไรขึ้น? 0:10:04.768,0:10:09.804 นั่นเพราะชื่อเบเกอร์ (Baker)[br]ไม่ได้มีความหมายอะไรกับคุณ 0:10:09.804,0:10:12.095 มันไม่ได้เชื่อมโยง 0:10:12.095,0:10:15.333 กับความทรงจำอื่นใดในหัวคุณเลย 0:10:15.333,0:10:17.223 แต่สามัญนาม คำว่าเบเกอร์ (baker) 0:10:17.223,0:10:19.094 เรารู้ว่ามันหมายถึงคนทำขนมปัง 0:10:19.094,0:10:21.123 ที่ใส่หมวกตลกๆ สีขาว 0:10:21.123,0:10:22.750 มีแป้งเลอะมือ 0:10:22.750,0:10:24.825 มีกลิ่นขนมอบหอมๆ ติดตัวมาเวลากลับบ้าน 0:10:24.825,0:10:26.952 หรือเราอาจจะรู้จักคนทำขนมปังสักคน 0:10:26.952,0:10:28.363 และเมื่อเราได้ยินคำนี้ครั้งแรก 0:10:28.363,0:10:31.208 เราก็สร้างความเชื่อมโยงเหล่านี้ขึ้น 0:10:31.208,0:10:35.279 ซึ่งทำให้ในวันหน้าเราดึงความจำเรื่องนี้ขึ้นมาได้ง่ายกว่า 0:10:35.279,0:10:38.237 ศาสตร์และศิลป์ของสิ่งที่เกิดขึ้น 0:10:38.237,0:10:40.352 ในการแข่งขันชิงแชมป์นักจำ 0:10:40.352,0:10:43.579 และการจำสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวัน 0:10:43.579,0:10:47.565 ก็คือการหาทางแปรรูปคำว่าเบเกอร์ (Baker) ที่เป็นชื่อคน 0:10:47.565,0:10:49.561 ให้เป็นเบเกอร์ (baker) ที่แปลว่าคนทำขนมปัง 0:10:49.561,0:10:52.948 เพื่อนำข้อมูลที่ขาดบริบท 0:10:52.948,0:10:55.254 ความสำคัญ หรือความหมาย 0:10:55.254,0:10:56.804 แล้วแปรรูปในทางใดทางหนึ่ง 0:10:56.804,0:10:58.979 ให้มันมีความหมายขึ้นมา 0:10:58.979,0:11:03.764 ในบริบทของสิ่งอื่นที่คุณมีอยู่ในหัว 0:11:03.764,0:11:07.498 หนึ่งในเทคนิคอันปราณีตสำหรับช่วยจำนี้ 0:11:07.498,0:11:11.417 มีอายุราว 2,500 ปี ย้อนไปในสมัยกรีกโบราณ 0:11:11.417,0:11:13.395 โดยมีชื่อเรียกว่า วังแห่งความจำ 0:11:13.395,0:11:16.820 มีเรื่องเล่าถึงที่มาของเทคนิคนี้ว่า 0:11:16.820,0:11:19.792 กวีคนหนึ่ง ชื่อไซโมนิดิส 0:11:19.792,0:11:21.698 ได้ไปงานเลี้ยงงานหนึ่ง 0:11:21.698,0:11:23.946 เราถูกว่าจ้างให้ไปขับกล่อมแขกผู้มีเกียรติ 0:11:23.946,0:11:26.958 เพราะสมัยก่อน ถ้าคุณอยากจัดปาร์ตี้มันส์สุดเหวี่ยง 0:11:26.958,0:11:30.170 คุณไม่จ้างดีเจหรอก คุณต้องจ้างกวี 0:11:30.170,0:11:35.040 ไซโมนิดิสยืนขึ้น ร่ายบทกวีปากเปล่าจากความจำ [br]เสร็จแล้วก็เดินออกไปจากประตู 0:11:35.040,0:11:40.152 ทันใดนั้น ห้องโถงที่จัดงานเลี้ยงก็ถล่มลงมา 0:11:40.152,0:11:42.833 ทุกคนในงานเสียชีวิตหมด 0:11:42.833,0:11:45.398 ซากปรักหักพังไม่เพียงคร่าชีวิตทุกคนเท่านั้น 0:11:45.398,0:11:49.262 แต่ยังทำลายศพจนเละเกินกว่าจะจำได้ว่าใครเป็นใคร 0:11:49.262,0:11:51.583 ไม่มีใครบอกได้ ว่ามีใครอยู่ในนั้นบ้าง 0:11:51.583,0:11:54.754 ไม่มีใครบอกได้ว่าใครนั่งอยู่ตรงไหน 0:11:54.754,0:11:56.993 ญาติก็ไม่สามารถนำศพไปฝังให้เรียบร้อยได้ 0:11:56.993,0:12:00.836 เป็นโศกนาฏกรรมซ้ำซ้อนจริงๆ 0:12:00.836,0:12:03.540 ไซโมนิดิสยืนอยู่ข้างนอก 0:12:03.540,0:12:05.671 เป็นผู้รอดชีวิตคนเดียว ท่ามกลางซากปรักหักพัง 0:12:05.671,0:12:09.307 เขาหลับตาลง แล้วก็ตระหนักว่า 0:12:09.307,0:12:11.845 ภาพในความทรงจำของเขา 0:12:11.845,0:12:16.990 มองเห็นว่าแขกแต่ละคนนั่งอยู่ตรงไหนในงานเลี้ยง 0:12:16.990,0:12:19.333 แล้วเขาก็จูงมือญาติของผู้เสียชีวิต 0:12:19.333,0:12:23.391 พาไปหาศพของคนที่เขารัก ท่ามกลางซากปรักหักพัง 0:12:23.391,0:12:26.655 สิ่งที่ไซโมนิดิสค้นพบในขณะนั้น 0:12:26.655,0:12:30.088 คือสิ่งที่ผมคิดว่าเราล้วนรู้อยู่ลึกๆ ในใจอยู่แล้ว 0:12:30.088,0:12:32.500 นั่นคือ แม้ว่าเราจะความจำแย่ 0:12:32.500,0:12:35.394 เมื่อให้จำชื่อคนและหมายเลขโทรศัพท์ 0:12:35.394,0:12:38.052 และคำอธิบายวิธีการต่างๆ จากเพื่อนร่วมงานให้ครบถ้วน 0:12:38.052,0:12:43.542 แต่เรามีความจำด้านภาพและสถานที่ที่ยอดเยี่ยมมาก 0:12:43.542,0:12:47.138 ถ้าผมให้คุณนึกถึงคำ 10 คำแรก 0:12:47.138,0:12:49.602 ในเรื่องไซโมนิดิสที่ผมเพิ่งเล่าไป 0:12:49.602,0:12:52.090 คุณคงนึกไม่ค่อยออกหรอก 0:12:52.090,0:12:54.404 แต่ผมพนันได้เลยว่า 0:12:54.404,0:12:57.087 ถ้าผมให้คุณนึก 0:12:57.087,0:13:01.643 ว่าใครกำลังนั่งอยู่บนหลังม้าสีแทน 0:13:01.643,0:13:03.641 ในห้องโถงที่บ้านคุณ 0:13:03.641,0:13:05.966 คุณจะมองเห็นภาพทันที 0:13:05.966,0:13:08.496 หลักการเบื้องหลังเทคนิควังแห่งความจำ 0:13:08.496,0:13:13.129 ก็คือการจินตนาการภาพอาคารแห่งหนึ่งไว้ในใจ 0:13:13.129,0:13:14.875 แล้วเอาภาพต่างๆ 0:13:14.875,0:13:17.083 ของสิ่งที่คุณต้องการจำใส่เข้าไป 0:13:17.083,0:13:20.412 ยิ่งเป็นภาพที่บ้าบอ แปลก ประหลาด 0:13:20.412,0:13:24.012 ตลก เซ็กซี่ มีกลิ่นฉุนเฉียวมากเท่าไหร่ 0:13:24.012,0:13:26.887 มันก็ยิ่งลืมไม่ลงมากเท่านั้น 0:13:26.887,0:13:29.721 คำแนะนำนี้มีมานานกว่า 2,000 ปีแล้ว 0:13:29.721,0:13:32.506 ย้อนไปถึงหนังสือโบราณภาษาละตินที่ว่าด้วยความจำ 0:13:32.506,0:13:34.335 เอาล่ะ แล้วเทคนิคนี้มันทำงานอย่างไร? 0:13:34.335,0:13:36.875 สมมติว่าคุณได้รับเชิญ 0:13:36.875,0:13:40.681 ให้มายืนบนเวที TED แห่งนี้เพื่อกล่าวปาฐกถา 0:13:40.681,0:13:43.215 คุณอยากพูดจากความจำของคุณ ไม่ใช่โพย 0:13:43.215,0:13:48.260 และจะพูดอย่างที่ซิเซโรน่าจะทำ 0:13:48.260,0:13:52.919 ถ้าเขาได้รับเชิญไปพูดที่ TEDx Rome เมื่อ 2,000 ปีก่อน 0:13:52.919,0:13:55.177 สิ่งที่คุณอาจจะทำ 0:13:55.177,0:14:00.396 คือจินตนาการตัวคุณเองอยู่ที่ประตูหน้าบ้านของคุณ 0:14:00.396,0:14:02.438 แล้วนึกถึงภาพอะไรที่ 0:14:02.438,0:14:05.946 บ้าสุดๆ ตลกสุดๆ หรือจำได้ติดตาไม่ลืม 0:14:05.946,0:14:08.929 เพื่อใช้เตือนให้คุณจำได้ว่า สิ่งแรกที่คุณอยากพูดถึง 0:14:08.929,0:14:11.721 คือการแข่งขันที่แปลกประหลาดสุดๆ 0:14:11.721,0:14:14.554 แล้วคุณก็เดินเข้าไปในบ้าน 0:14:14.554,0:14:17.406 เห็นเจ้าปีศาจคุกกี้ มอนสเตอร์ 0:14:17.406,0:14:19.293 อยู่บนหลังม้าชื่อมิสเตอร์ เอ็ด 0:14:19.293,0:14:20.562 เพื่อเตือนให้คุณจำได้ 0:14:20.562,0:14:23.736 ว่าคุณอยากพูดถึงเพื่อนของคุณชื่อเอ็ด คุก 0:14:23.736,0:14:26.400 แล้วคุณก็เห็นภาพบริทนีย์ สเปียร์ส 0:14:26.400,0:14:29.212 ที่ทำให้คุณจำตัวอย่างขำๆ ที่คุณอยากเล่าได้ 0:14:29.212,0:14:30.884 คุณเดินเข้าไปในครัว 0:14:30.884,0:14:32.729 และหัวข้อที่สี่ที่คุณจะพูดคือ 0:14:32.729,0:14:35.667 การเดินทางที่แปลกประหลาดที่คุณผ่านมาเป็นเวลาหนึ่งปี 0:14:35.667,0:14:40.631 โดยมีเพื่อนๆ ของคุณคอยช่วยให้คุณจำสิ่งเหล่านี้ได้ 0:14:40.631,0:14:44.850 นี่คือวิธีที่นักพูดชาวโรมันจดจำปาฐกถาของเขา 0:14:44.850,0:14:48.244 ไม่ใช่จำคำต่อคำ ซึ่งจะทำให้คุณสับสน 0:14:48.244,0:14:50.656 แต่จำใจความสำคัญเป็นรายหัวข้อ (topic) 0:14:50.656,0:14:53.563 ที่จริง คำว่า ประโยคใจความสำคัญ (Topic sentence) 0:14:53.563,0:14:56.863 นั้นมาจากรากศัพท์ภาษากรีกว่า "topos" 0:14:56.863,0:14:58.583 ซึ่งแปลว่า สถานที่ 0:14:58.583,0:15:00.150 นั่นเป็นเบาะแสที่ชี้ว่า 0:15:00.150,0:15:02.470 เมื่อก่อนคนเราคิดถึงสุนทรพจน์และวาทศิลป์ 0:15:02.470,0:15:04.708 โดยใช้ถ้อยคำที่เกี่ยวกับสถานที่ 0:15:04.708,0:15:06.645 วลีที่ว่า "in the first place" ที่แปลว่า ตั้งแต่แรก 0:15:06.645,0:15:10.068 ก็หมายถึงจุดแรกในวังแห่งความจำของเรา 0:15:10.068,0:15:12.048 ผมคิดว่าเรื่องนี้น่าสนใจมาก 0:15:12.048,0:15:13.948 และผมก็หลงใหลเรื่องนี้มาก 0:15:13.948,0:15:16.696 ผมไปงานแข่งขันความจำแบบนี้อีกสองสามที่ 0:15:16.696,0:15:19.257 แล้วก็เกิดความคิดว่าผมน่าจะเขียนบทความ[br]ที่ยาวกว่าเดิม 0:15:19.257,0:15:22.550 เกี่ยวกับวัฒนธรรมกลุ่มย่อย[br]ของนักแข่งขันชิงแชมป์ความจำ 0:15:22.550,0:15:24.577 แต่มันมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่ง 0:15:24.577,0:15:27.325 นั่นคือ การแข่งขันความจำ 0:15:27.325,0:15:31.054 เป็นการแข่งขันที่น่าเบื่ออย่างแสนสาหัส 0:15:31.054,0:15:33.660 (เสียงหัวเราะ) 0:15:33.660,0:15:38.210 จริงๆ นะครับ มันเหมือนกับเอาคนจำนวนมาก[br]มานั่งทำข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัย 0:15:38.210,0:15:39.904 คือ เหตุการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจสุดๆ แล้ว ก็คือ 0:15:39.904,0:15:41.283 ตอนที่ใครสักคนเริ่มนวดขมับของเขา แค่นั้นแหละ 0:15:41.283,0:15:44.321 แล้วผมเป็นนักข่าวนะ ผมต้องการเรื่องไปเขียนข่าว 0:15:44.321,0:15:48.098 ผมรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นเยอะแยะเหลือเชื่อ[br]ในหัวของคนเหล่านี้ 0:15:48.098,0:15:50.198 แต่ผมไม่สามารถเข้าถึงมันได้ 0:15:50.198,0:15:52.917 ผมจึงนึกขึ้นมาได้ว่า ถ้าผมจะเล่าเรื่องนี้ 0:15:52.917,0:15:55.667 ผมต้องลองสวมบทบาทเป็นคนเหล่านี้สักหน่อย 0:15:55.667,0:15:59.248 ผมก็เลยเริ่มใช้เวลา 15 ถึง 20 นาที ทุกๆ เช้า 0:15:59.248,0:16:02.083 ก่อนจะนั่งลงทำงานที่หนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทม์ 0:16:02.083,0:16:04.604 พยายามจำอะไรสักอย่าง 0:16:04.604,0:16:06.273 อาจจะเป็นบทกวี 0:16:06.273,0:16:08.312 ชื่อคนจากหนังสือรุ่นเก่าๆ 0:16:08.312,0:16:10.571 ที่ผมซื้อมาจากตลาดขายของมือสอง 0:16:10.571,0:16:16.067 แล้วผมก็พบว่ามันสนุกอย่างไม่น่าเชื่อ 0:16:16.067,0:16:18.145 ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลย 0:16:18.145,0:16:21.508 มันสนุกเพราะจริงๆ มันไม่ใช่การฝึกความจำหรอก 0:16:21.508,0:16:24.546 แต่เป็นการพยายามพัฒนาความสามารถ 0:16:24.546,0:16:26.975 ในการสร้างสรรค์ จินตนาการ 0:16:26.975,0:16:29.869 ภาพที่น่าขำ เซ็กซี่ ตลก 0:16:29.869,0:16:33.994 และจำได้ไม่ลืมในใจของคุณ 0:16:33.994,0:16:35.577 และผมก็สนุกไปกับมันมาก 0:16:35.577,0:16:42.234 นี่คือภาพผมในชุดมาตรฐาน[br]สำหรับฝึกความจำสำหรับแข่งขัน 0:16:42.234,0:16:44.200 นั่นคือที่อุดหูคู่หนึ่ง 0:16:44.200,0:16:47.609 และแว่นตานิรภัยที่พ่นสีดำทั้งหมด 0:16:47.609,0:16:50.282 เหลือแค่รูเล็กๆ สองรู 0:16:50.282,0:16:55.608 เพราะสิ่งเบี่ยงเบนความสนใจเป็นศัตรูสำคัญ[br]ของนักแข่งขันชิงแชมป์ความจำ 0:16:55.608,0:17:01.375 ในที่สุด ผมก็กลับไปที่การแข่งขันที่ผมเขียนถึงเมื่อปีก่อน 0:17:01.375,0:17:03.481 และคิดว่าจะลงแข่งดู 0:17:03.481,0:17:06.783 เพื่อทดลองทำข่าวแบบมีส่วนร่วม 0:17:06.783,0:17:11.304 ผมหวังว่า มันน่าจะเป็นบทส่งท้ายเจ๋งๆ [br]ให้งานวิจัยของผมครั้งนี้ 0:17:11.304,0:17:15.042 ปัญหาคือ การทดลองมันเลยเถิดไปไกล 0:17:15.042,0:17:17.779 คือ ผมชนะการแข่งขัน 0:17:17.779,0:17:20.882 ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น 0:17:20.882,0:17:26.731 (เสียงปรบมือ) 0:17:26.731,0:17:28.436 เอาล่ะ มันก็ดีนะครับ 0:17:28.436,0:17:31.263 การที่เราสามารถจดจำปาฐกถา 0:17:31.263,0:17:34.357 เบอร์โทรศัพท์ และรายการจ่ายตลาด 0:17:34.357,0:17:37.133 แต่สิ่งเหล่านี้มันไม่ใช่สาระสำคัญ 0:17:37.133,0:17:39.331 มันเป็นแค่เทคนิค 0:17:39.331,0:17:41.333 หรือลูกเล่นพิเศษที่ได้ผล 0:17:41.333,0:17:44.516 เพราะมันตั้งอยู่บนหลักการพื้นฐาน 0:17:44.516,0:17:46.292 ของการทำงานของสมอง 0:17:46.292,0:17:50.244 คุณไม่ต้องสร้างวังแห่งความจำ 0:17:50.244,0:17:52.250 หรือจำไพ่ทั้งสำรับ 0:17:52.250,0:17:54.263 เพื่อใช้ประโยชน์จากความเข้าใจ 0:17:54.263,0:17:56.907 ว่าจิตใจของคุณทำงานอย่างไร 0:17:56.907,0:17:58.700 เรามักพูดถึงคนที่ความจำเป็นเลิศ 0:17:58.700,0:18:01.000 ราวกับว่ามันเป็นพรสวรรค์ที่ติดตัวมาแต่เกิด 0:18:01.000,0:18:02.890 แต่มันไม่ใช่เลย 0:18:02.890,0:18:06.658 ความจำที่เป็นเลิศนั้นมาจากการเรียนรู้ 0:18:06.658,0:18:10.127 ในระดับพื้นฐานที่สุด เราจะจำอะไรได้เมื่อเราใส่ใจ 0:18:10.127,0:18:13.333 เราจำได้เมื่อเราเอาใจใส่อย่างลึกซึ้ง 0:18:13.333,0:18:14.854 เราจำได้เมื่อเราสามารถ 0:18:14.854,0:18:17.625 นำข้อมูลและประสบการณ์ที่มี 0:18:17.625,0:18:19.731 มาพิจารณาว่ามันมีความหมายกับเราอย่างไร 0:18:19.731,0:18:22.154 ทำไมมันจึงสำคัญ ทำไมมันจึงมีสีสันน่าสนใจ 0:18:22.169,0:18:25.098 เมื่อเราสามารถแปรรูปมัน 0:18:25.098,0:18:26.592 ให้มีความหมายขึ้นมา 0:18:26.592,0:18:28.819 ในบริบทของสิ่งอื่นๆ ที่ล่องลอยอยู่ในหัวของเรา 0:18:28.819,0:18:34.079 เมื่อเราสามารถเปลี่ยนคนชื่อ Bakers [br]ให้เป็น bakers ที่แปลว่าคนทำขนมปัง 0:18:34.079,0:18:36.505 วังแห่งความจำ เทคนิคช่วยจำพวกนี้ 0:18:36.505,0:18:38.375 มันเป็นแค่ทางลัด 0:18:38.375,0:18:40.940 ที่จริง มันไม่ใช่ทางลัดด้วยซ้ำ 0:18:40.940,0:18:44.343 มันได้ผล เพราะมันบังคับให้คุณใช้ความคิดมากขึ้น 0:18:44.343,0:18:48.283 มันบังคับให้คุณคิด ประมวลผลข้อมูลอย่างลึกซึ้ง 0:18:48.283,0:18:49.804 ให้คุณมีสติ สมาธิ 0:18:49.804,0:18:54.032 ซึ่งพวกเราส่วนใหญ่ไม่ได้ฝึกฝนกันอยู่เป็นประจำ 0:18:54.032,0:18:56.594 แต่ที่จริง มันไม่มีทางลัด 0:18:56.594,0:18:59.450 นี่เป็นเทคนิคที่ทำให้สิ่งต่างๆ มันจำง่าย 0:18:59.450,0:19:03.593 และผมคิดว่า ถ้าจะมีอะไรสักอย่าง[br]ที่ผมอยากทิ้งท้ายไว้ให้คุณคิด 0:19:03.593,0:19:06.327 ก็คงเป็นสิ่งที่เรื่องราวของชายขื่อ อี พี 0:19:06.327,0:19:10.125 ชายความจำเสื่อมที่จำไม่ได้ว่าตัวเองความจำเสื่อม 0:19:10.125,0:19:11.615 ทิ้งท้ายไว้ให้ผมคิด 0:19:11.615,0:19:13.713 นั่นคือความคิดที่ว่า 0:19:13.713,0:19:18.750 ชีวิตของเราเป็นผลรวมของความทรงจำของเรา 0:19:18.750,0:19:24.583 เราจะยอมสูญเสียความทรงจำไปมากแค่ไหน 0:19:24.583,0:19:28.250 จากชีวิตของเราที่แสนสั้นอยู่แล้ว 0:19:28.250,0:19:35.210 ด้วยการหมกมุ่นอยู่กับแบล็คเบอรี่หรือไอโฟน 0:19:35.210,0:19:39.008 ด้วยการไม่เอาใจใส่คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเรา 0:19:39.008,0:19:40.583 คนที่กำลังคุยกับเรา 0:19:40.583,0:19:42.654 ด้วยความขี้เกียจจนไม่ยอมคิด 0:19:42.654,0:19:46.344 พิจารณาอะไรให้ลึกซึ้ง 0:19:46.344,0:19:48.788 ผมเรียนรู้มากับตัวเอง 0:19:48.788,0:19:52.185 ว่ามีความสามารถในการจำอันเหลือเชื่อ 0:19:52.185,0:19:54.188 ซ่อนอยู่ในตัวเราทุกคน 0:19:54.188,0:19:57.585 ถ้าคุณอยากใช้ชีวิตที่น่าจดจำ 0:19:57.585,0:19:59.971 คุณต้องเป็นคนที่ 0:19:59.971,0:20:02.937 ใส่ใจเสมอที่จะจดจำ 0:20:02.937,0:20:04.706 ขอบคุณครับ 0:20:04.706,0:20:07.796 (เสียงปรบมือ)